นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์  เปิดเผยว่า เส้นทางแห่งความก้าวหน้าของกรมการแพทย์ตลอด 83 ปีที่ผ่านมา กรมการแพทย์ได้เติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีเป้าหมายในการรวมศูนย์การแพทย์ให้มีเอกภาพ สู่การเป็นองค์กรวิชาการด้านการแพทย์ระดับประเทศที่สนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุขด้วย การวิจัย และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ขณะนี้กรมการแพทย์ ประกอบด้วยหน่วยงานในสังกัด 43 หน่วยงาน  ทั้งโรงพยาบาลทั่วไประดับสูงกว่าตติยภูมิ สถาบันการแพทย์เฉพาะทางในส่วนกลางและภูมิภาค และ หน่วยงานสนับสนุนเช่นสำนักวิจัยและประเมินเทคโนโลยีทางการแพทย์ สำนักดิจิทัลการแพทย์ เป็นต้น ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางแก่ประชาชน พัฒนาวิชาการด้านสาธารณสุข และส่งเสริมระบบบริการทางการแพทย์ของประเทศ โดยมีวิสัยทัศน์สู่อนาคตกรมการแพทย์มุ่งมั่นเป็นองค์กรหลักในการจัดหาบริการทางการแพทย์แบบองค์รวมระดับชาติ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน ภายใต้แนวทาง "AI³" ซึ่งประกอบด้วย

 Advance in Core Business ก้าวนำทุกความเชี่ยวชาญ มุ่งมั่นพัฒนาและยกระดับความสามารถหลักขององค์กรให้เป็นเลิศในทุกด้าน

Integrated Services การผสานการดูแลผู้ป่วยในทุกมิติ ประกอบด้วย Inter-hospital integrated บูรณาการการดูแล
โดยยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางระหว่างโรงพยาบาล Inter-division integrated นำความเชี่ยวชาญผสานระบบสุขภาพอย่างครอบคลุม  Western – Oriental medicine integrated ผสานความเชี่ยวชาญระหว่างเทคโนโลยีนวัตกรรมทางการแพทย์และภูมิปัญญาไทย เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

Insight & Data Driven Organization การขับเคลื่อนองค์กรด้วยคุณค่าจากข้อมูลคุณภาพ การนำข้อมูลบริการทางการแพทย์มาดูแลสุขภาพแบบองค์รวมบนฐานของข้อมูลเชิงประจักษ์

 Impact at Country Level การสร้างผลลัพธ์เชิงประจักษ์ ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีทางการแพทย์เฉพาะทางแก่สถานบริการสุขภาพทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงการสร้างนวัตกรรมและแนวทางใหม่ๆเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน ยกระดับระบบสุขภาพประเทศไทย และการเติบโตอย่างยั่งยืน  ตามภารกิจกรมการแพทย์ทั้ง 6 ด้านสำคัญ ได้แก่ ด้าน Research ศึกษาวิจัยให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆทางการแพทย์เฉพาะทาง เพื่อยกระดับการรักษา ตอบโจทย์ปัญหาสาธารณสุขของประเทศและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในระบบบริการสุขภาพ ด้าน Innovation สร้างสรรค์สิ่งใหม่หรือพัฒนาต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่เดิมในรูปแบบของเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อการรักษาที่แม่นยำ เพิ่มประสิทธิผลด้านการรักษา ลดผลข้างเคียง ลดระยะเวลารอคอย ลดค่าใช้จ่าย ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่น การใช้ AI ทางการแพทย์ การใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ทางการแพทย์ เช่น หุ่นยนต์ต้นแบบผสมยาเคมีบำบัดชนิดแขนกล 2 แขน หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดสมองผู้ป่วยโรคลมชัก เป็นต้น ด้าน Technologies Assessment วิเคราะห์เทคโนโลยีทางการแพทย์ ทั้งในแง่ประสิทธิผล ความปลอดภัย ความคุ้มค่า การเข้าถึงบริการของประชาชน

 

 

 

 

อย่างเสมอภาค และผลกระทบต่อระบบสุขภาพ เพื่อให้เกิดการตัดสินใจเชิงนโยบายที่เหมาะสมในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในระบบบริการสุขภาพของประเทศ และ ผลักดันเข้าสู่ชุดสิทธิประโยชน์ของกองทุนต่างๆ เช่น การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และ การรักษาหลอดเลือดสมองอุดตันด้วยการสวนหลอดเลือด ด้าน Model Development ออกแบบและพัฒนาแนวทางการให้บริการทางการแพทย์ โดยบูรณาการองค์ความรู้ ทรัพยากร และเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อสร้างต้นแบบการดูแลรักษาที่สามารถนำไปขยายผลในสถานพยาบาลทั่วประเทศ ตอบสนองความต้องการของประชาชนและบริบทของพื้นที่ด้วยระบบบริการทางการแพทย์ที่มีความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ จากโรงพยาบาลทุกระดับไปสู่ชมชน เช่น ระบบการดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อม ระบบช่องทางด่วนโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น ด้าน Policy Advocacy การนำหลักฐานเชิงประจักษ์และองค์ความรู้ทางวิชาการมาสังเคราะห์ วิเคราะห์ และผลักดันให้เกิดเป็นนโยบายสาธารณะด้านสุขภาพ รวมถึงการสร้างการมีส่วนร่วมจากภาคีเครือข่าย เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การจัดตั้งคลินิกโรคไต คลินิกผู้สูงอายุ และ ศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น ด้าน Training มุ่งผลิตแพทย์เฉพาะทางมากกว่า 62 หลักสูตร และบุคลากรด้านสุขภาพหลากหลายสาขาวิชาชีพ ที่มีความเชี่ยวชาญเพียงพอ ด้วยการพัฒนา ยกระดับหลักสูตรทั้งระยะสั้นและระยะยาว ให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับความต้องการและระบบสุขภาพของประเทศไทย ในปี 2567 นี้ ได้เปิดการอบรมแพทย์และพยาบาลเฉพาะทาง โดยมีบุคลากรด้านสุขภาพจากเขตสุขภาพทั่วประเทศ จำนวน 1,834 คน ที่ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีทางการแพทย์

สำหรับก้าวต่อไปของกรมการแพทย์ จะยังคงยึดมั่นในปณิธานและแนวทางการดำเนินงานที่มุ่งเน้นคุณภาพ มาตรฐาน และประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมและข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อให้กรมการแพทย์สามารถก้าวทันการแข่งขันได้ในระดับสากลได้ ด้วยการ "รวมความเชี่ยวชาญ ผสานภูมิปัญญา ใช้ข้อมูลอย่างมีคุณค่า พัฒนาระบบสาธารณสุขไทย" เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคนต่อไป

****************************************************

#83ปีกรมการแพทย์ #กรมการแพทย์                  -ขอขอบคุณ-

10 มีนาคม 2568



   


View 21    10/03/2568   ข่าวในรั้ว สธ.    กรมการแพทย์