กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข จัดเวทีสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายแกนนำตำบลจัดการสุขภาพในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ มุ่งสร้างความรอบรู้เกี่ยวกับโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ลดเสี่ยง ลดโรค และปรับพฤติกรรมสุขภาพให้ถูกต้อง ประชาชนเกิดการพึ่งตนเองด้านสุขภาพอย่างยั่งยืน

          ดร.นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยว่า กรม สบส.เดินหน้าขับเคลื่อนการป้องกันและควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ตามยุทธศาสตร์ทศวรรษกำจัดพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีคนไทย ปี 2559-2568 โดยมีเป้าหมายในการลดอัตราความชุกของโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีในคนและในปลาไม่เกินร้อยละ 1 ในปี 2568 และอัตราการเสียชีวิตด้วยมะเร็งท่อน้ำดีลดลงสองในสามในปี 2578 ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยง 30 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีอัตราการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับและการเกิดมะเร็งท่อน้ำดีที่ค่อนข้างสูง ดังนั้น กรม สบส. โดยกองสุขศึกษา จึงได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายแกนนำตำบลจัดการสุขภาพขึ้น เพื่อพัฒนาแกนนำตำบลจัดการสุขภาพในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้มีความพร้อมในการเป็นผู้นำจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพเสี่ยงโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีให้กับกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มป่วยเพื่อให้สามารถจัดการสุขภาพตนเองได้ ซึ่งกระบวนงานสุขศึกษาเป็นกลวิธีสำคัญที่เครือข่ายสามารถนำไปใช้พัฒนาชุมชน ลดปัจจัยเสี่ยงของโรคพยาธิใบไม้ตับ และลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งท่อน้ำดี

          “กรม สบส.ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครือข่ายแกนนำตำบลจัดการสุขภาพ เพื่อส่งเสริมความรอบรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงของประชาชนต่อการเกิดโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี เชื่อว่าการป้องกันที่ดี คือการสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง และทำให้ประชาชนสามารถดูแลตัวเองได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายดังกล่าว” ดร.นพ.ภานุวัฒน์ อธิบดีกรม สบส. กล่าว

          ด้านนายแพทย์อดิสรณ์ วรรธนะศักดิ์ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาเครือข่ายในครั้งนี้ มุ่งเน้นการให้ความรู้ กระบวนการจัดการเรียนรู้ตามหลักสุขศึกษา และการดูแลติดตามเยี่ยมเสริมพลังอย่างต่อเนื่อง อาทิ หัวข้อการเรียนรู้ความเสี่ยงและความรุนแรงของโรคและการตั้งเป้าหมาย การวิเคราะห์พฤติกรรมเสี่ยง ทางเลือก และการวางแผนการปรับพฤติกรรม การเข้าถึง เข้าใจ ตัดสินใจด้านสุขภาพ การแนะนำ การติดตามและสรุปผล เป็นต้น โดยได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.นิตยา เพ็ญศิรินภา นักวิชาการอิสระ และนางสาวจุติภรณ์ ภูเก้าล้วน นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ กรมควบคุมโรค เป็นวิทยากรร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ผู้รับผิดชอบงานสุขศึกษาและพฤติกรรมสุขภาพภาคประชาชนจากศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 1,2,6,7,8,9,และ 10 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เขต 1,2,6,7,8,9,และ 10 และนักวิชาการจากกองสุขศึกษา



   
   


View 34    10/03/2568   ข่าวในรั้ว สธ.    กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ