วันนี้ (10 มีนาคม 2568) นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นประธานเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ภายใต้ชื่องาน “83 ปี กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เราจะรับผิดชอบต่อโลกนี้ตลอดไป” โดยมีผู้บริหาร อดีตผู้บริหารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุม 110 อาคาร 100 ปี การสาธารณสุขไทย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จังหวัดนนทบุรี  โดยกิจกรรมในช่วงเช้าจะเป็นพิธีสงฆ์ และมอบรางวัลแก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่น คนดีศรีกรม และบุคลากรดีเด่น ประจำปีงบประมาณ 2567 ในช่วงบ่ายมีกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์ภายในหน่วยงานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก สำหรับหญิงไทยกลุ่มเป้าหมาย อายุ 30-60 ปี ที่ไม่เคยรับการตรวจมะเร็งปากมดลูกในรอบ 5 ปี โดยใช้ชุดเก็บตัวอย่างด้วยตนเอง (HPV Self-sampling) ฟรี 


          นายแพทย์ยงยศ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จัดตั้งขึ้นภายใต้กระทรวงสาธารณสุข มีบทบาทภารกิจในการให้บริการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ชันสูตรโรค และเฝ้าระวังความปลอดภัยทางห้องปฏิบัติการด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุข นับจากที่ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2485 จนในปีนี้ครบรอบ 83 ปีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้สนับสนุนการดำเนินงานด้านสาธารณสุขของประเทศมากมาย ทั้งการป้องกัน คุ้มครองผู้บริโภค และสร้างองค์ความรู้จากการวิจัยด้วยวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อจะมุ่งไปสู่การพัฒนางานสาธารณสุขของไทยในอนาคต รวมทั้งดูแลสังคมไทย 
          นายแพทย์ยงยศ กล่าวต่อว่า เรานําเสนอสิ่งที่เป็นโอกาสของประเทศอยู่เสมอ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โครงการตรวจ NAT2  สำหรับปรับระดับยาต้านวัณโรค Isoniazid การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก โดยใช้ชุดเก็บตัวอย่างด้วยตนเอง (HPV Self-sampling) การวิจัยพัฒนาการแพทย์ขั้นสูง เช่น การถอดรหัสพันธุกรรม การตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์ ด้วยวิธี NIPT การคัดกรองพันธุกรรมธาลัสซีเมียในประเทศไทย การวิจัยพัฒนาสเต็มเซลล์ การวิจัยพัฒนาวัคซีน การรับรองห้องปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข การพัฒนาการตรวจสอบตามหลักการ OECD GLP การพัฒนาเครือข่ายห้องปฏิบัติการระดับภูมิภาค การพัฒนานวัตกรรมและชุดทดสอบ การวิจัยพัฒนาสมุนไพร เช่น กระท่อม เพื่อสนับสนุนการใช้ประโยชน์ทั้งภายในประเทศ และการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ ยกระดับเศรษฐกิจประเทศไทย สร้างรายได้เกษตรกร การตรวจรับรองผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยา เครื่องสำอาง และเครื่องมือแพทย์ เป็นต้น 

          นอกจากนี้ในเรื่องของสิ่งแวดล้อม กรมก็ได้ให้ความสำคัญเช่นกัน โดยสนับสนุนให้มีการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือก โดยมีความร่วมมือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จัดทำโครงการจัดการพลังงานไฟฟ้าจากระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ติดตั้งบนหลังคาอาคารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งมีขนาดกำลังผลิต 900 กิโลวัตต์ ทำให้สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้เดือนละ 5 หมื่นบาท ปีละกว่า 6 แสนบาท หรือประหยัดไฟฟ้าสะสม 20 ปี มากว่า 10 ล้านบาท และยังช่วยลดการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ได้ 43.099 ตันต่อเดือน 
ขณะเดียวกันก็ได้สนับสนุนผลักดันคนรุ่นใหม่สู่อนาคต เพื่อร่วมกันรับผิดชอบต่อโลก และสังคม รวมทั้งสนับสนุนบุคลากรภายในกรมให้มีความก้าวหน้า และมีความผาสุกในการทำงาน มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ ลานกีฬา และมีกิจกรรมส่งเสริมความผูกพันในองค์กรอย่างจริงจังเป็นรูปธรรมทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ทำให้กรมเป็นบ้านอีกหลังของทุกคน และมีการจัดตั้งสมาคมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อส่งเสริมพัฒนาและรักษาคุณค่าวิชาชีพวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้เจริญก้าวหน้าตามมาตรฐานสากล และเพื่อเป็นศูนย์รวมของผู้ประกอบวิชาชีพ ในการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นเกี่ยวกับวิชาชีพ มุ่งสู่ความเป็นเลิศ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้เพื่อให้บรรลุตามจุดม่งหมายของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ “เราจะรับผิดชอบต่อโลกนี้ตลอดไป”


        “สำหรับการจัดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ครบรอบ 83 ปี ในช่วงเช้าจะมีพิธีสงฆ์ และพิธีมอบโล่รางวัลและประกาศนียบัตรแก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่น คนดีศรีกรม และบุคลากรดีเด่น จำนวน 34 ราย ส่วนในช่วงบ่ายมีกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์ภายในหน่วยงานบริเวณกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก โดยขอเชิญชวนหญิงไทยกลุ่มเป้าหมาย อายุ 30-60 ปี ที่ไม่เคยรับการตรวจมะเร็งปากมดลูกในรอบ 5 ปี เนื่องจากโรคมะเร็งปาดมดลูกพบมาก 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบบ่อยในหญิงไทย สาเหตุสำคัญมาจากการติดเชื้อเอชพีวี ส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการ และมากกว่าร้อยละ 90 จะหายได้เอง ดังนั้นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก โดยใช้ชุดเก็บตัวอย่างด้วยตนเอง (HPV Self-sampling) จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการป้องกันมะเร็งปากมดลูก ตรวจง่าย ไม่ต้องขึ้นขาหยั่ง เพิ่มโอกาสในการตรวจพบความผิดปกติ และเข้าสู่การรักษาได้ตั้งแต่แรกเริ่ม” นายแพทย์ยงยศ กล่าว

 

 



   
   


View 86    10/03/2568   ข่าวในรั้ว สธ.    กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์