รพ.เมตตาฯ(วัดไร่ขิง) เผยเด็กเล็กเสี่ยงต้อหินได้ โดยอาจพบตั้งแต่แรกเกิด มีภาวะแทรกซ้อน มีปานแดง ปานดำ ขนาดใหญ่บนใบหน้าและพาดผ่านดวงตา อย่านิ่งนอนใจควรรีบพบจักษุแพทย์
นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคต้อหินเป็นโรคเกี่ยวกับดวงตา มักพบในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันพบว่าแม้แต่เด็กเล็กๆ มีความเสี่ยงที่จะเป็นต้อหินได้เช่นกัน ซึ่งความร้ายแรงของโรคนี้คือ หากปล่อยไว้จนอาการลุกลามกระทั่งมองไม่เห็นแล้ว จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครอง
ควรหมั่นสังเกตความผิดปกติต่างๆ ที่อาจเกิดกับดวงตาของลูกหลาน และพาไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย
อย่างทันท่วงที
นายแพทย์กิตติวัฒน์ มะโนจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวว่า ต้อหินเป็นโรค
ที่เกิดจากความดันในลูกตาสูงขึ้น จนขั้วประสาทตาซึ่งเป็นตัวนำการมองเห็นไปสู่สมองถูกทำลาย ทำให้สูญเสียลานสายตา ซึ่งในระยะเริ่มต้นจะไม่มีอาการผิดปกติใดๆ แต่เมื่อโรคลุกลามมากขึ้น การมองเห็นจะเริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อย บางคนอาจ
ไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง คือการมองจะยังคงเห็นวัตถุข้างหน้าได้ชัดเจนดี แต่จะเริ่มมองวัตถุรอบๆไม่เห็น และลานสายตาแคบลงเหมือนมองผ่านกล้องส่องทางไกลอยู่ตลอดเวลา และจะแคบลงเรื่อยๆ จนสูญเสียการมองเห็นในที่สุด
แพทย์หญิงสุพัตรา จามรสุวรรณ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ กล่าวเสริมว่า โรคต้อหินที่พบในเด็กสามารถพบได้ตั้งแต่แรกเกิด เนื่องจากพัฒนาการที่ผิดปกติตั้งแต่ในครรภ์ สังเกตความผิดปกติได้จากทารกมีอาการน้ำตาไหล ไม่สู้แสง ตาดำโต เป็นฝ้าขาว หรืออาจมีตาดำเล็กกว่าปกติ และต้อหินที่เกิดจากภาวะแทรกซ้อน ของโรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น การใช้ยาหยอดตาเป็นเวลานาน เด็กที่เป็นภูมิแพ้ มีอาการตาแดงมาก คันตา ผู้ปกครองซื้อยาหยอดตาใช้เองโดยไม่ปรึกษาจักษุแพทย์และใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอาจทำให้ความดันตาสูงขึ้น ขั้วประสาทตาถูกทำลายจนสูญเสียการมองเห็นในที่สุด นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กที่มีปานแดง ปานดำบนใบหน้า หากมีขนาดใหญ่และมีพื้นที่พาดผ่านดวงตา จัดว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ทั้งนี้เนื่องจากเด็กที่มีปานแดงเส้นเลือดบนใบหน้าเกิดความผิดปกติมีเนื้องอกมาอุดตันทำให้น้ำหล่อเลี้ยงในดวงตาไม่สามารถระบายออกได้ความดันในลูกตาจึงสูงขึ้น ส่วนปานดำเกิดจากมีเม็ดสีดำเข้ามาอยู่ที่ผิวหนัง อุดตันท่อระบายน้ำในตา จึงทำให้ความดันในลูกตาสูงขึ้น ทั้งนี้เด็กที่เป็นปานดำพบว่าจะเป็นต้อหินเมื่อเป็นผู้ใหญ่ แต่เด็กที่เป็นปานแดง อาจเป็นต้อหินได้ตั้งแต่ยังเล็ก อย่างไรก็ตามหากพบว่าเด็กมีความผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา เช่น ไม่มอง ไม่จับวัตถุสิ่งของ เหมือนมองไม่เห็น ควรพาไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติ สำหรับวิธีการรักษาโรคต้อหินในเด็กอาจรักษาด้วยเลเซอร์หรือผ่าตัดแก้ไขท่อระบายน้ำที่ดวงตาให้เป็นปกติ ดังนั้นควรหมั่นสังเกตความผิดปกติต่างๆ ที่อาจเกิดกับดวงตาของลูกหลาน และพาไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างทันท่วงที
*************************************************
# รพ.เมตตาฯ (วัดไร่ขิง) # เด็กเล็กเสี่ยงต้อหิน # ปานบนใบหน้า # ดวงตาขาวขุ่นมัว # น้ำตาไหล -ขอขอบคุณ-
24 มิถุนายน 2568
แพทย์หญิงสุพัตรา จามรสุวรรณ
นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ
