สธ. เผยความคืบหน้าการตรวจสอบ 687 อาคารได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว ส่วนใหญ่ไม่กระทบโครงสร้างหลัก เปิดให้บริการได้ปกติ 681 อาคาร
- สำนักสารนิเทศ
- 178 View
- อ่านต่อ
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณรับผู้บาดเจ็บตึกถล่มจากแผ่นดินไหวทุกรายไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ความคืบหน้าล่าสุดโรงพยาบาลในสังกัด พบความเสียหาย 151 แห่ง ใน 30 จังหวัด ส่วนใหญ่ไม่กระทบโครงสร้างหลัก ย้ำทุกแห่งเร่งตรวจสอบความปลอดภัยก่อนเปิดให้บริการ ทีม MCATT วางระบบช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้บาดเจ็บ ครอบครัว และญาติ โดยศูนย์ปฏิบัติการฯ จะติดตามสถานการณ์ทุกวันจนกว่าจะยุติ
วันนี้ (29 มีนาคม 2568) ที่ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณี แผ่นดินไหวในประเทศไทย ครั้งที่ 2/2568 และกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผู้บาดเจ็บตึกถล่มจากแผ่นดินไหวทุกรายไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ล่าสุดมีรายงานหน่วยบริการสาธารณสุขทั่วประเทศได้รับผลกระทบ ทั้งหมด 151 แห่ง ใน 30 จังหวัด รวม กรุงเทพมหานคร แยกเป็น โรงพยาบาลศูนย์ 7 แห่ง โรงพยาบาลทั่วไป 13 แห่ง โรงพยาบาลสังกัดกรม 3 แห่ง โรงพยาบาลชุมชน 69 แห่ง รพ.สต./ สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 38 แห่ง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 2 แห่ง และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ 19 แห่ง โดยส่วนมากเกิดรอยร้าว แต่ไม่กระทบต่อโครงสร้างหลัก จึงยังสามารถให้บริการได้ และไม่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
นายแพทย์วีรวุฒิกล่าวต่อว่า สำหรับโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ ที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร พบว่า ได้รับผลกระทบ 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลเลิดสิน พบความเสียหายแต่ไม่กระทบต่อโครงสร้างอาคาร ยกเว้นส่วนทางเชื่อมต่ออาคารกาญจนาภิเษก ที่ยังใช้งานไม่ได้ แต่จะกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ ในวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม นี้ และโรงพยาบาลราชวิถี อาคารนวมินทราธิราชพบความเสียหายที่อาจได้กระทบต่อโครงสร้างอาคาร จึง ได้งดใช้งานทั้งอาคาร และส่งต่อผู้ป่วยในจำนวน 133 ราย ไปยังสถาบันประสาทวิทยา โรงพยาบาลสงฆ์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ สถาบันทรวงอก และโรงพยาบาลราชวิถี 2
ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการฯ ได้มีข้อสั่งการให้สำรวจความเสียหายอาคารสถานที่ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์พร้อมทั้งประเมินความปลอดภัยโครงสร้างหลักโดยให้มีใบรับรองหรือรายงานการรับรองจากหน่วยงาน/บุคคลทที่สามารถรับรองได้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้รับบริการ กรณีอยู่ระหว่างตรวจสอบและยังไม่ทราบความปลอดภัยชัดเจนให้ปิดบริการ และประชาสัมพันธ์สถานที่บริการอื่นให้ประชาชนทราบ สำหรับกรมการแพทย์ให้สนับสนุนทีมแพทย์ในการปฏิบัติการกู้ชีพช่วยชีวิตผู้ที่ยังติดค้างในที่เกิดเหตุ รวมทั้งเร่งประเมินโครงสร้างอาคารทศมินทราธิราช เพื่อให้สามารถกลับมาให้บริการได้โดยเร็ว ส่วนทีม MCATT ให้วางระบบช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้บาดเจ็บ ครอบครัว และญาติทั้งจุดเกิดเหตุและทั้งที่อยู่ในภูมิภาค โดยศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินฯ จะประชุมติดตามสถานการณ์ทุกวันจนกว่าสถานการณ์จะยุติ
**********************************29 มีนาคม 2568