กรมอนามัย X LINE MAN Wongnai สานต่อความร่วมมือขับเคลื่อนเมนูชูสุขภาพ หวานน้อยสั่งได้
- กรมอนามัย
- 54 View
- อ่านต่อ
ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการฉายรังสีบริเวณศีรษะและลำคอ ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากก่อนเข้ารับการรักษา เนื่องจากการฉายรังสีทำให้เกิดโรคฟันผุและโรคเหงือกได้มากขึ้นกว่าปกติ
นายแพทย์สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์กล่าวว่า ผู้ป่วยที่ฉายรังสีบริเวณศีรษะและลำคอ ได้แก่ ผู้ป่วยโรคมะเร็งโพรงจมูกและไซนัส มะเร็งในช่องปาก มะเร็งในลำคอ มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งต่อมน้ำลาย และมะเร็งไทรอยด์ มักพบอาการข้างเคียงต่าง ๆ ภายในช่องปาก เนื่องจากการรักษาด้วยรังสีเป็นการรักษาเฉพาะที่ ฉะนั้นผลข้างเคียงจะมีผลต่อเฉพาะบริเวณที่โดนรังสี โดยขึ้นอยู่กับปริมาตรของอวัยวะที่ได้รับรังสีและปริมาณรังสีที่ได้รับ รวมถึงเทคนิคที่ใช้ ในการรักษาอีกด้วย ดังนั้น ผู้เข้ารับการฉายรังสีบริเวณศีรษะและลำคอ ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากก่อน กรณีที่มีฟันที่จำเป็นต้องได้รับการรักษา ควรรักษาให้เสร็จเรียบร้อยก่อนเริ่มการฉายรังสี เพราะอาการแทรกซ้อนต่างๆ ส่งผลให้เกิดโรคฟันผุ และโรคเหงือกได้ง่ายยิ่งขึ้น
เรืออากาศเอกนายแพทย์สมชาย ธนะสิทธิชัย ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า การดูแลทางทันตกรรมในผู้ป่วยที่จำเป็นต้องเข้ารับการฉายรังสีบริเวณศีรษะและลำคอ แบ่งเป็น ก่อนฉายรังสี ระหว่างฉายรังสี และหลังฉายรังสี การเตรียมช่องปากก่อนฉายรังสี ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาในช่องปาก เช่น การอุดฟัน การขูดหินปูน ในกรณีที่ต้องมีการถอนฟันจำเป็นต้องรอให้แผลถอนฟันหายดีประมาณ 2-3 สัปดาห์ ให้มีการสร้างเนื้อเยื่อเหงือกคลุมเบ้าฟัน เพื่อป้องกันภาวะกระดูกขากรรไกรตายจากการรับรังสีรักษา (Osteoradionecrosis of the jaws; ORN)
นายแพทย์เอกภพ แสงอริยะวณิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญมะเร็งวิทยา โสต ศอ นาสิก สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดูแลสุขภาพช่องปากระหว่างฉายรังสี ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างฉายรังสีคือ เนื้อเยื่อในช่องปากแดงอักเสบ, ปากแห้ง, อ้าปากได้ลดลง การรับรสลดลงหรือเปลี่ยนไป และอาจมีการติดเชื้อในช่องปากแบบเฉียบพลัน ดังนั้น ระหว่างรับการฉายรังสีควรมีการดูแลช่องปากด้วยการจิบน้ำเป็นประจำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในช่องปาก งดการใส่ฟันปลอมในช่วงระหว่างฉายรังสีเพื่อลดการเกิดแผลในช่องปากจากการเสียดสีหรือกดทับของฟันปลอม แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ร่วมกับการใช้ยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์และยาสีฟันไม่ควรมีรสเย็นซ่า ฝึกอ้าปากเป็นประจำทุกวันเพื่อป้องกันภาวะขากรรไกรยึด (Trismus) หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด ร้อนจัด การเคี้ยวของแข็งหรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หมั่นตรวจดูภายในช่องปากด้วยตัวเองเป็นประจำ และหากพบความผิดปกติ เช่น มีแผล มีกระดูกโผล่หรือมีการติดเชื้อ ให้แจ้งแพทย์ทราบทันที
สำหรับการดูแลสุขภาพช่องปากหลังฉายรังสี หลังจากเสร็จสิ้นการรักษาด้วยการฉายรังสีแล้ว ควรดูแลสุขภาพช่องปากเป็นพิเศษ โดยทำความสะอาดช่องปากด้วยการแปรงฟัน วันละ 2 ครั้ง ร่วมกับการใช้ยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์และทำความสะอาดซอกฟันให้สะอาดสม่ำเสมอ รักษาความชุ่มชื้นของริมฝีปากโดยการใช้ลิปมันหรือขี้ผึ้งทาริมฝีปากบ่อย ๆ รักษาความชุ่มชื้นของริมฝีปากด้วยการจิบน้ำบ่อย ๆ ฝึกอ้าปากเป็นประจำทุกวัน หากยังมีฟัน ควรเคลือบฟลูออไรด์ก่อนนอนวันละ 1 ครั้ง หมั่นตรวจดูช่องปากด้วยตัวเองเป็นประจำ หากพบความผิดปกติให้แจ้งแพทย์ทราบทันที หากพบฟันผุที่สามารถอุดได้ให้รักษาโดยการอุดได้ตามปกติ กรณีรักษาไม่ได้ให้พิจารณารักษารากฟันในกรณีที่ไม่มีรอยโรคปลายราก แต่หากจำเป็นต้องถอนฟัน ให้ขอประวัติการรักษามะเร็งจากแพทย์เพื่อทราบข้อมูลในการรักษา การใส่ฟันปลอมในผู้ป่วยกลุ่มนี้ควรรอ 12 เดือนเป็นต้นไปหลังจบการรักษาด้วยการฉายรังสี และต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยทันตแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาถึงความเหมาะสม
หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการหาความรู้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ผ่านทาง Facebook : สถาบันมะเร็งแห่งชาติ National Cancer Institute และ Line : NCI รู้สู้มะเร็ง #สถาบันมะเร็งแห่งชาติ #กรมการแพทย์
………………………….. - ขอขอบคุณ –
18 มีนาคม 2568