พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงโปรดให้ผู้แทนพระองค์ เปิดงานรณรงค์วันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2568

       พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงโปรดให้ผู้แทนพระองค์ เปิดงานรณรงค์วันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2568 พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่บุคคล องค์กร คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดที่ดำเนินการดีเด่นด้านการป้องกันควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงศิลปิน/นักแสดง/ Influencer ที่สนับสนุนการดำเนินงานควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวม 31 รางวัล และการแสดงนิทรรศการผลงานของบุคคล องค์กรฯ ที่ดำเนินการดีเด่นด้านการป้องกันควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งในโอกาสนี้ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ทรงพระเมตตาประทานพระคติธรรมเนื่องในวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี 2568 และผู้นำศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ ล้วนมีโอวาทที่มุ่งเน้นให้เห็นถึงผลกระทบด้านลบจากการดื่มสุรา

       วันนี้ (9 กรกฎาคม 2568) ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงโปรดให้ นายบุญเชิด กันภัย รองผู้อำนวยการกองงานในพระองค์ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เป็นผู้แทนพระองค์ เปิดงานรณรงค์วันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยมีนายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รักษาการในตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และภาคีเครือข่ายจากหน่วยงานต่างๆ ร่วมงาน

       นายวิชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรี ได้มีมติให้วันเข้าพรรษาของทุกปี เป็น “วันงดดื่มสุราแห่งชาติ” เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเข้าพรรษา กระตุ้นเตือนให้ประชาชนเล็งเห็นถึงโทษพิษภัย ผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม เนื่องจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ ครอบครัว อุบัติเหตุ และอาชญากรรม ส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่าทุกปีทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากพิษของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 3 ล้านคน ถือเป็นร้อยละ 5.3 ของการตายทั้งหมด และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมากกว่า 200 ชนิด

       ด้านนายแพทย์ภาณุมาศ กล่าวว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อให้เกิดผลกระทบในเชิงลบมากกว่าเชิงบวกและปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับตัวผู้ดื่มเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปถึงบุคคลที่อยู่รอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความรุนแรงในครอบครัว อุบัติเหตุบนท้องถนน การละเมิดสิทธิเด็ก รวมถึงปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยปัจจุบันการเติบโตของตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กำลังทำให้ผู้ที่ไม่ดื่มกลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคประชาสังคม ดำเนินงานควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยใช้มาตรการทางกฎหมาย และมาตรการทางสังคม เพื่อลดปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งกิจกรรมในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Zero drink Zero death ลดเหล้าให้เป็นศูนย์” มุ่งเน้นให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกระตุ้นให้เกิดการลด ละ เลิกการดื่ม โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ไม่ให้กลายเป็นกลุ่มนักดื่มหน้าใหม่ ปลุกจิตสำนึกถึงโทษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมจุดประกายให้เยาวชนได้เห็นว่าการใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานและมีคุณค่าสามารถทำได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเยาวชน คือ กำลังสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศชาติในอนาคต 

       กระทรวงสาธารณสุข ขอแสดงความห่วงใยต่อประชาชน ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ มีผลทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายลดลง มีโอกาสติดเชื้อต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ในทางกลับกัน หากสามารถหยุดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ จะทำให้ตับมีการฟื้นตัวได้ภายใน 3 เดือน ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น จึงขอเชิญชวนลด ละ เลิกเหล้า โดยเริ่มต้นที่ครอบครัว เชิญชวนคนในบ้าน เเสดงความรักต่อคนรอบข้าง ลดรายจ่าย สร้างความปลอดภัย ลดอุบัติเหตุทะเลาะวิวาทและเพื่อการมีสุขภาพที่ดี นำไปสู่การเลิกเหล้าตลอดชีวิต สามารถลงนามออนไลน์ปฏิญาณตน ผ่าน QR Code หรือ เว็บไซต์ https://noalcohol.ddc.moph.go.th/

ข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค

วันที่ 9 กรกฎาคม 2568