“มิถุนายน” ของทุกปีเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ส่งกำลังใจให้ผู้รอดชีวิตจากมะเร็ง เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในสังคมให้เกิดความเข้าใจและเห็นคุณค่าของผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งเกี่ยวกับความท้าทายที่ต้องเผชิญ และความต้องการด้านบริการดูแลสุขภาพหลังการรักษามะเร็ง เพื่อให้ผู้รอดชีวิตจากมะเร็งได้รับการสนับสนุนอย่างครบวงจรและมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป

นายแพทย์สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ผู้รอดชีวิตจากมะเร็ง หมายรวมถึงทุกคนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง เริ่มตั้งแต่ได้รับการวินิจฉัยตลอดจนช่วงเวลาที่ดำรงชีวิตอยู่ รวมทั้งครอบครัวและผู้ดูแลที่มีส่วนได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็ง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และแม้กระทั่งด้านการเงิน การเป็นผู้รอดชีวิตจากมะเร็งไม่ได้หมายความเพียงการมีอายุที่ยืนยาวขึ้นเท่านั้น แต่ยังต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีร่วมด้วย โดยอาศัยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตเพื่อลดผลข้างเคียงในระยะยาวที่มีโอกาสเกิดขึ้นจากตัวโรคมะเร็งเองหรือผลข้างเคียงที่เกิดจากวิธีการรักษาโรคมะเร็ง การดูแลสุขภาพทั้งด้านอาหาร การออกกำลังกาย การพักผ่อนที่เพียงพอ รวมถึงการสนับสนุนจากครอบครัว ชุมชน และการเข้าร่วมกลุ่มทางสังคมเพื่อฟื้นฟูจิตใจ

เรืออากาศเอกนายแพทย์สมชาย ธนะสิทธิชัย ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งสิ่งสำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ การสร้างความมั่นใจและความเข้าใจในตนเองและสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ การทบทวนความสำเร็จในอดีต การตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และการดูแลร่างกายจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ ขณะที่การทำความเข้าใจสถานการณ์อย่างรอบด้าน การเรียนรู้จากประสบการณ์ การยอมรับและปล่อยวางสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ รวมถึงการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้ผู้รอดชีวิตสามารถก้าวข้ามอุปสรรค ดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมีพลัง ด้วยทัศนคติเชิงบวก และสุขภาพที่ดีขึ้นทั้งกายและใจ

                นายแพทย์สาริศ อารยะพงษ์ แพทย์เฉพาะทางอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้รอดชีวิตจากมะเร็ง        การรับประทานอาหารเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญเพื่อช่วยฟื้นฟูสุขภาพและลดความเสี่ยงในการกลับมาเป็นซ้ำของโรค โดยหน่วยงานด้านโรคมะเร็งในประเทศสหรัฐอเมริกามีคำแนะนำแนวทางโดยการเลือกรับประทานอาหารที่มีความหลากหลายและได้รับสารอาหารครบถ้วน เน้นพืชผัก ผลไม้ ถั่วหรือพืชตระกูลถั่ว และธัญพืชไม่ขัดสีเป็นหลัก ในหนึ่งจานควรประกอบด้วย ผัก 30% ของจาน ผลไม้ 20% ของจาน ธัญพืชไม่ขัดสี 30% ของจาน และโปรตีน 20% ของจาน แหล่งของสารอาหารจากส่วนประกอบอาหารที่แนะนำ ได้แก่ ไขมันจากน้ำมันมะกอกหรือคาโนลา อะโวคาโด เมล็ดพืชและถั่ว และปลาน้ำเย็น คาร์โบไฮเดรตจากผลไม้ ผัก ธัญพืชไม่ขัดสี และพืชตระกูลถั่ว โปรตีนจากสัตว์ปีก ปลา พืชตระกูลถั่ว อาหารจากนมไขมันต่ำ ไข่ และถั่ว การบริโภคเนื้อแดง เช่น เนื้อวัว หมู หรือเนื้อแกะ       ในปริมาณพอเหมาะ ไม่เกิน 500 กรัม (ปรุงสุก) ต่อสัปดาห์ หลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปหรืออาหารที่ผ่านการแปรรูป เช่น แฮม เบคอน ไส้กรอก เนื้อสัตว์แปรรูปที่ผ่านการหมักดอง บริโภคน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ น้อยกว่า 6 ช้อนชา (25 กรัม) สําหรับอาหาร 2,000 แคลอรี่ต่อวัน และน้อยกว่า 9 ช้อนชา (38 กรัม) สําหรับอาหาร 3,000 แคลอรี่ต่อวัน โดยจํากัดอาหารแปรรูปที่มีไขมัน แป้งหรือน้ำตาลสูง เช่น มันฝรั่งทอด คุกกี้ ลูกกวาด ของหวาน ขนมอบแปรรูป ซีเรียลที่มีน้ำตาล อาหารทอดและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล หลีกเลี่ยงดื่มแอลกอฮอล์ การบริโภคแอลกอฮอล์ในระดับที่ต่ำลงมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของโรคมะเร็ง

คำแนะนำเหล่านี้เป็นเพียงกรอบแนวทางพื้นฐานที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสภาวะสุขภาพ โรคประจำตัวและวิถีชีวิตของแต่ละบุคคล ามารถปรึกษานักโภชนาการที่มีความเชี่ยวชาญในบางกรณีที่มีความจำเพาะได้ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการส่งกำลังใจ เพื่อสร้างสังคมของความรู้ความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจ ตลอดจนส่งต่อความช่วยเหลือให้ผู้รอดชีวิตจากมะเร็ง เพื่อร่วมปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้รอดชีวิตจากมะเร็งให้ดียิ่งขึ้น หากท่านมีข้อสงสัย สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากสถาบันมะเร็งแห่งชาติผ่านทาง Facebook : สถาบันมะเร็งแห่งชาติ National Cancer Institute และ LINE : NCI รู้สู้มะเร็ง

…………………………..

-ขอขอบคุณ-

23 มิถุนายน 2568

 



   


View 57    23/06/2568   ข่าวในรั้ว สธ.    กรมการแพทย์