รวมพลังสร้างรอยยิ้ม! สธ. – ท้องถิ่น – เอกชน ร่วมดูแลช่องปากผู้สูงวัยหนองปรง
- กรมอนามัย
- 84 View
- อ่านต่อ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ, พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ, พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว, พ.ต.อ.สำเริง อำพรรณทอง รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ., สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, ภก.เลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมปฏิบัติการจับกุมกวาดล้างเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายยาแก้ไอปลอมรายใหญ่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จ.สระบุรี จ.นครปฐม และ จ.พระนครศรีอยุธยา ปฏิบัติการจับกุมกวาดล้างเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายยาแก้ไอปลอมรายใหญ่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จ.สระบุรี จ.นนทบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจยึด อายัด ยาสำเร็จรูป เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต และวัตถุดิบจำนวนมาก ซึ่งหากนำไปผลิตเป็นยาสำเร็จรูปได้ทั้งหมด จะมีมูลค่ากว่า 22,000,000 บาท
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึด นำโดย พ.ต.ท.พีระ พันธุวงศ์ สว.กก.4 บก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
สืบเนื่องจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้มีการเฝ้าระวังการใช้กลุ่มยาแก้ไอ ยาแก้แพ้ หรือยาบางชนิดมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดยนำมาผสมกับน้ำกระท่อมดื่มเพื่อความสร้างความมึนเมาและเสพติดเป็นจำนวนมาก หรือที่เรียกกันว่า 4X100 ส่งผลให้เกิดการลักลอบผลิตและขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยการเสพยาเสพติดชนิดนี้ เป็นจุดเริ่มต้นให้กลุ่มวัยรุ่นยกระดับ
การเสพสารเสพติดในรูปแบบอื่นที่รุนแรงมากขึ้นได้ กอปรกับการตรวจพื้นที่ร่วม อย. ตรวจร้านขายยากลุ่มเสี่ยง เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ซึ่งพบยาปลอมในร้านขายยา
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสืบสวนหาข่าวพบว่า มีการลักลอบผลิตยาแก้ไอปลอมและทราบถึง 2 กลุ่มเครือข่ายผู้ผลิตยาแก้ไอปลอม ว่ามีการลักลอบผลิตและบรรจุอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จ.สระบุรี
จ.นนทบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นำหมายค้นเข้าตรวจค้นสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการขายยาแก้ไอปลอม 2 เครือข่าย จำนวน 5 จุด ดังนี้
วันที่ 11 มิถุนายน 2568 เข้าตรวจค้น
1) ยาแก้ไอสำเร็จรูปปลอม ยี่ห้อ "ดาทิสซิน" จำนวน 3,800 ขวด
2) ผลิตภัณฑ์อาหารปลอม น้ำหวานเข้มข้นกลิ่นราสเบอร์รี่ จำนวน 64,000 ขวด
3) ขวดพลาสติกสำหรับใช้บรรจุยาแก้ไอปลอม จำนวน 146,486 ขวด
4) สติ๊กเกอร์ฉลากยาแก้ไอปลอม (71 ม้วน x 2500 ดวง) จำนวน 177,500 ดวง
5) ฝาปิดขวดยาแก้ไอปลอม 680,000 ชิ้น
6) ขวดพลาสติกสีชาสำหรับบรรจุยา 145,836 ชิ้น
7) Ammonium Chloride 17 ถุง (25 กิโลกรัม/ถุง)
8) เครื่องจักร/อุปกรณ์การผลิต เช่น เครื่องบรรจุยา 5 เครื่อง, เครื่องตอกปิดฝา 5 เครื่อง, เครื่องติดฉลาก 2 เครื่อง, ปั๊มลม 2 เครื่อง, เครื่องรัดลัง 3 เครื่อง
9) อุปกรณ์การผลิตอื่น เช่น ลังกระดาษ ถังบรรจุน้ำยา แกลลอนฯ ฯลฯ
2. สถานที่ผลิต(ต้มยาแก้ไอ) โกดังเลขที่ 19/125 ซ.หมู่บ้านศรีเพชรการเคหะ ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตรวจยึดวัตถุดิบ ขวดบรรจุภัณฑ์ และอุปกรณ์ในการผลิต ที่ใช้ในการต้มยาแก้ไอ เช่น
1) สารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาแก้ไอปลอม จำนวน 16 รายการ
2) น้ำตาลทรายขาว 77 กระสอบ
3) หม้อต้มสำหรับใช้ผสมยา 11 ถัง
4) แก๊สหุงต้มขนาด 15 kg จำนวน 15 ถัง
5) แก๊สหุงต้มขนาด 48 kg จำนวน 5 ถัง
6) อุปกรณ์การผลิตอื่น เช่น เครื่องชั่ง ถังเปล่า อุปกรณ์ตัก บรรจุยาฯ ฯลฯ
โดยทั้ง 2 จุดดังกล่าวมียอดการผลิตยาแก้ไอ วันละ 20,000 ขวด คิดเป็นมูลค่าวันละประมาณ 1,000,000 บาท โดยทำมาแล้วเป็นเวลา 2 เดือน
วันที่ 12 มิถุนายน 2568 เข้าตรวจค้น
โดยจุดดังกล่าวมียอดการผลิตยาแก้ไอ วันละ 20,000 ขวด คิดเป็นมูลค่าวันละประมาณ 1,000,000 บาท โดยทำมาแล้วเป็นเวลา 2 เดือน
4. โกดังแห่งหนึ่ง หมู่ 2 ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี สถานที่เก็บวัตถุดิบสำหรับใช้ผลิตยาแก้ไอปลอม ตรวจยึด
1) รถกระบะบรรทุกตู้ ยี่ห้อ อีซูซุ จำนวน 2 คัน และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ ฮอนด้าแจ๊ส จำนวน 1 คัน
2) สารให้ความหวานแทนน้ำตาล จำนวน 875 ถุง
3) วัตถุดิบสำหรับใช้ผลิตยาแก้ไอปลอม จำนวน 40 แกลลอน
วันที่ 13 มิถุนายน 2568 เข้าตรวจค้น
6) เครื่องจักร/อุปกรณ์การผลิต เช่น เครื่องรัดลัง 1 เครื่อง, เครื่องตอกปิดฝาสี่หัว 9 เครื่อง, เครื่องติดฉลาก 2 เครื่อง, เครื่องบรรจุยา 1 เครื่อง, ปั๊มลม 2 เครื่อง, หม้อต้มยาพร้อมเตา 1 ชุด ฯลฯ
7) อุปกรณ์การผลิตอื่น เช่น ลังกระดาษ ถังบรรจุน้ำยา แกลลอน ฯ
รวมตรวจยึด 5 จุดตรวจค้น ยาแก้ไอปลอม ยี่ห้อ “ดาทิสซิน” ยี่ห้อ “ALLERGIN SYRUP” และผลิตภัณฑ์อาหารปลอม น้ำหวานเข้มข้นกลิ่นราสเบอร์รี่ จำนวนกว่า 92,100 ขวด สติ๊กเกอร์ยาปลอมและอาหารปลอมจำนวนกว่า 295,000 ดวง รวมถึงวัตถุดิบอุปกรณ์ในการผลิตจำนวนมาก มูลค่าของกลางทั้งสิ้นประมาณ 22 ล้านบาท
จากการสืบสวนพบว่าผู้กระทำความผิด นำส่วนผสม วัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์จากสถานที่ต่าง ๆ มาลักลอบผลิต จากนั้นจะนำมาแบ่งบรรจุลงขวดอีกแห่งหนึ่ง โดยมีแรงงานต่างชาติเป็นคนงาน และจะย้ายสถานที่ผลิตไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ยากแก่การติดตาม ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังสืบสวนทราบว่ากลุ่มผู้กระทำผิดดังกล่าว เป็นผู้ที่ได้รับการว่าจ้างผลิตยาแก้ไอปลอม ให้กับเครือข่ายผู้กระทำความผิด ในการผลิต และจำหน่ายยาแก้ไอปลอม ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร, จ.นครปฐม, จ.นนทบุรี และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้เข้าทำการตรวจค้นไปแล้ว เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2567 และเดือนมกราคม, เมษายน 2568 ที่ผ่านมา แต่ยังกระทำผิดซ้ำซากโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค หวังแต่ผลประโยชน์ทางด้านธุรกิจ สร้างปัญหาให้แก่สังคมส่วนรวม
เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม
พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510
1. ฐาน “ผลิตและขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต” โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
2. ฐาน “ผลิต และขายยาปลอม” โทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึงตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 50,000 บาท
พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522
1. ฐาน “ผลิต และขายอาหารปลอม” โทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 100,000 บาท
2. หากตรวจพบยาแผนปัจจุบันจัดเป็น “อาหารไม่บริสุทธิ์” โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตามนโยบายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชนทั้งด้านการให้บริการสุขภาพและด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้คุณภาพ มาตรฐาน หรือไม่ปลอดภัย ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้ ขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจสอบสวนกลางที่บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิด รวมไปถึงการจัดการตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการกวาดล้างตั้งแต่ต้นตอของปัญหายาเสพติด ด้วยการจับกุมสถานที่ผลิตเถื่อน หรือร้านขายยากลุ่มเสี่ยงและเภสัชเถื่อนที่มีการขายยาน้ำ แก้แพ้ แก้ไอให้กับวัยรุ่นนำไปผสมสารเสพติดและน้ำกระท่อม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการนำไปสู่การใช้ยาเสพติดชนิดที่รุนแรงขึ้นในกลุ่มเยาวชน และก่อให้เกิดปัญหาภัยสังคมตามมาเป็นลำดับ
กระทรวงสาธารณสุขจะร่วมมือกับหน่วยงานทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องและเข้มแข็ง เพื่อจัดการปัญหาทั้งที่เป็นภัยต่อสังคมและภัยต่อสุขภาพ รวมไปถึงการปราบปรามผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการลักลอบนำเข้าหรือผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ความปลอดภัยของประชาชนแล้ว ยังส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศชาติอีกด้วย
เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมมือกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) จนสามารถจับกุมเครือข่ายลักลอบผลิตยาน้ำแก้ไอปลอมได้สำเร็จในครั้งนี้
โดยขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการนำยาแก้แพ้และยาแก้ไอมาใช้ในทางที่ผิด เช่น การนำไปผสมในเครื่องดื่ม “4x100” ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ เนื่องจากพบว่ามีการลักลอบผลิตยาน้ำปลอมจำนวนมาก โดยสถานที่ผลิตเหล่านี้ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการผลิตที่ดี (GMP) และไม่ถูกสุขลักษณะ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้อาจปนเปื้อนและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
สำหรับปัญหาการนำยาไปใช้ในทางที่ผิดอย่างต่อเนื่อง อย. ได้กำหนดมาตรการควบคุมครอบคลุมตั้งแต่การนำเข้าสารเคมีที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตยา จนถึงขั้นตอนการจำหน่าย โดยผู้ที่ต้องการนำเข้า ผลิต หรือขายยาดังกล่าว จะต้องได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ฝ่าฝืนหรือลักลอบดำเนินการจะต้องรับโทษทั้งจำคุกและปรับตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ อย. ได้ประสานความร่วมมือกับ บก.ปคบ. ในการเฝ้าระวังและปราบปรามการลักลอบผลิตและจำหน่ายยาปลอมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา หรือผลิตจากแหล่งที่ไม่ถูกต้อง นอกจากจะไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคแล้ว ยังอาจทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายต่อสุขภาพได้อีกด้วย
ทั้งนี้ อย. ขอเตือนว่า ยาบางชนิดถูกลักลอบนำไปใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มมึนเมาที่เรียกว่า “สี่คูณร้อย” ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง โดย อย. จะร่วมกับ สสจ. และ บก.ปคบ. เฝ้าระวังและดำเนินคดีอย่างเข้มงวด หากพบผลิตภัณฑ์ต้องสงสัย สามารถตรวจสอบได้ที่ www.fda.moph.go.th หรือแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน 1556, Line@FDAThai, Facebook: FDAThai, หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่ว