ศูนย์ปฏิบัติการฯ สธ. กำชับภาคเหนือติดตามสถานการณ์ฝุ่น pm 2.5 ดูแลกลุ่มเปราะบางต่อเนื่อง พร้อมเฝ้าระวังภาวะฉุกเฉินอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น

               รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 14 จังหวัด "เชียงราย" แดงต่อเนื่อง 3 วัน แนวโน้ม 7 วันข้างหน้า "ภาคเหนือ" ค่าฝุ่นยังสูงเกินเกณฑ์ กำชับดูแลกลุ่มเปราะบางต่อเนื่อง พร้อมเฝ้าระวังเตรียมความพร้อมรองรับภาวะฉุกเฉินด้านอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น วาตภัย พายุฤดูร้อน วิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูลสถานการณ์ในผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคในช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา และถอดบทเรียนของจังหวัดที่ดำเนินงานได้ดีเพื่อนำไปปรับใช้

               วันนี้ (17 มีนาคม 2568) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณี หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก ครั้งที่ 12/2568 ว่า ขณะนี้มีจังหวัดที่ค่าฝุ่น PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมงเกินมาตรฐาน 14 จังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (37.6-75 มคก./ลบ.ม.) 8 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง ตาก แพร่ อุบลราชธานี อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก และเลย และระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ (มากกว่า 75 มคก./ลบ.ม.ขึ้นไป) 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน พะเยา และน่าน โดยเชียงรายมีค่าฝุ่นระดับสีแดงติดต่อกันเกิน 3 วัน ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ในอีก 7 วันข้างหน้า พื้นที่ภาคเหนือจะยังมีค่าฝุ่นอยู่ในระดับปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนั้น ประชาชนในพื้นที่จึงยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เมื่อค่าฝุ่นเป็นสีส้มควรลดกิจกรรมนอกบ้าน อยู่ในห้องปลอดฝุ่น หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอกให้สวมหน้ากากอนามัย และเมื่อมีอาการเจ็บป่วยให้รีบพบแพทย์

               นพ.วีรวุฒิกล่าวต่อว่า ได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ ติดตามสถานการณ์ฝุ่นอย่างต่อเนื่อง และดำเนินการตามมาตรการ โดยเฉพาะการลดและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ การสนับสนุนหน้ากากอนามัยแก่ประชาชนและกลุ่มเปราะบางที่มีประมาณ 1.62 ล้านคน ส่วนหน่วยงานวิชาการในส่วนกลางให้ติดตามวิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูลผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคในปีนี้ กับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เพื่่อให้เห็นแนวโน้มสถานการณ์ที่ชัดเจน รวมทั้งถอดบทเรียนการปฏิบัติงานในการจัดการปัญหา PM2.5 ด้านการแพทย์และสาธารณสุขในระดับจังหวัดที่สามารถเป็นตัวอย่างการปฏิบัติที่ดี เพื่อนำไปปรับใช้ นอกจากนี้ ยังให้มีการเฝ้าระวังเตรียมความพร้อมรองรับภาวะฉุกเฉินด้านอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงระยะนี้ เช่น วาตภัย พายุฤดูร้อน รวมถึงเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล อุบัติเหตุรถพยาบาล เป็นต้น 

                                                                                       ********************************** 17 มีนาคม 2568