รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย ก.พ.มีมติกำหนดหลักเกณฑ์ฯ แต่งตั้งตำแหน่ง “หัวหน้าพยาบาล” ระดับเชี่ยวชาญ โดยใช้วิธีประเมินบุคคลและผลงาน นำร่องที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข หลัง “รัฐมนตรีสมศักดิ์” และ “ปลัดโอภาส” ร่วมผลักดันอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดคุณสมบัติเพิ่มเติม เป็นหัวหน้ากลุ่มงานไม่น้อยกว่า 2 ปี ผ่านหลักสูตรอบรมที่ อ.ก.พ.สธ.กำหนด จ่อตั้งคณะกรรมการประเมินฯ เพื่อพิจารณาแต่งตั้งต่อไป

วันนี้ (14 มีนาคม 2568) นพ.ภูวเดช สุระโคตร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญเรื่องการดูแลขวัญกำลังใจของบุคลากรสาธารณสุขทุกวิชาชีพ โดยในส่วนวิชาชีพพยาบาล ที่ผ่านมามีการผลักดันให้เกิดความก้าวหน้า เช่น การกำหนดตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพระดับชำนาญการพิเศษ 10,124 ตำแหน่ง รวมถึงการเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ให้ใช้วิธีประเมินบุคคลและผลงานในการแต่งตั้งตำแหน่งหัวหน้าพยาบาล ระดับเชี่ยวชาญ พร้อมติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด สำนักงาน ก.พ. ได้ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา แจ้งว่า ก.พ. ได้พิจารณาและมีมติให้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญ ตำแหน่งหัวหน้าพยาบาล (พยาบาลวิชาชีพเชี่ยวชาญ) เพื่อใช้ในสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานนำร่อง โดยให้ใช้วิธีการประเมินบุคคลและผลงาน (ไม่ต้องส่งผลงานวิชาการ)

นอกจากนี้ ยังอนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุขกำหนดคุณสมบัติเพิ่มเติมจากคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพเชี่ยวชาญ คือ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่หรือเคยปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มงานมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 2 ปี และผ่านการอบรมหลักสูตรที่ อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข กำหนด สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณา จะพิจารณาจากข้อมูลบุคคล ความรู้ ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน โดยมุ่งเน้นการประเมินสมรรถนะทางการบริหารที่เหมาะสมกับลักษณะงานของตำแหน่งหัวหน้าพยาบาล (พยาบาลวิชาชีพเชี่ยวชาญ) ผลงานทางด้านการบริหารจัดการด้านการพยาบาล ด้านการบริหารบริการพยาบาล หรือการบริหารจัดการกำลังคนทางการพยาบาล และข้อเสนอแนวคิดการพัฒนาหรือปรับปรุงกระบวนงานต่าง ๆ จำนวน 1 เรื่อง โดยวิธีการประเมินบุคคลและผลงาน อาจใช้วิธีการสัมภาษณ์ สอบข้อเขียน หรือวิธีการอย่างอื่น ตามที่ อ.ก.พ. กระทรวงสาธารณสุข เห็นว่าเหมาะสมด้วยก็ได้ พร้อมทั้งให้ อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข แต่งตั้งคณะกรรมการประเมินบุคคลและผลงานเพื่อพิจารณาต่อไป

“การเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการไม่เคยมีการดำเนินการในลักษณะนี้มาก่อน แต่ตำแหน่งหัวหน้าพยาบาลมีรูปแบบการทำงานที่ไม่เหมือนในหน่วยงานอื่น ต้องบริหารจัดการกำลังคนในวิชาชีพหลายร้อยถึงหลักพันคน  กระทรวงสาธารณสุขจึงผลักดันเรื่องนี้มาตลอด และในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น จากการผลักดันของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธาน อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข และปลัดกระทรวงสาธารณสุขในฐานะเจ้ากระทรวง โดยมีกองการพยาบาลสนับสนุนข้อมูลอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ ก.พ.มีมติกำหนดหลักเกณฑ์แต่งตั้งพยาบาลระดับเชี่ยวชาญ ให้เป็นไปตามมติของ อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข” นพ.ภูวเดชกล่าว

 ************************************************* 14 มีนาคม 2568



   
   


View 3746    14/03/2568   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ