“สมศักดิ์” ปลื้ม WHO ชื่นชมการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อของไทย ยกเป็นผู้นำ NCDs Best Buys ระดับโลก

             รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย องค์การอนามัยโลก (WHO) ชื่นชมประเทศไทยในการเป็นผู้นำระดับโลกดำเนินมาตรการที่คุ้มค่าและมีประสิทธิผลในการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ หรือ  “NCDs Best Buys” ทั้งนโยบายบรรจุภัณฑ์ยาสูบแบบเรียบ ภาษียาสูบ การกำจัดไขมันทรานส์ และภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล พร้อมให้การสนับสนุนประเทศไทยในการเผยแพร่บทเรียนการดำเนินงานในเวทีการประชุมระดับโลก

                นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลกได้ส่งจดหมายทางอีเมลมาแสดงความขอบคุณรัฐบาลไทยและกระทรวงสาธารณสุข ในโอกาสที่ตนได้นำทีมผู้บริหารหารือร่วมกับ นพ.จอส ฟอนเดลาร์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ใน 2 ประเด็นหลัก คือ การช่วยเหลือด้านสาธารณสุขในพื้นที่ชายแดนไทย – เมียนมา และ การดำเนินงานด้านโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ของไทย ซึ่ง นพ.จอส ได้ชื่นชมนโยบาย “คนไทยห่างไกล NCDs” เป็นอย่างมาก และยินดีสนับสนุนการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายแผนปฏิบัติการว่าด้วยการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อขององค์การอนามัยโลก ภายในปี 2573

          นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า องค์การอนามัยโลกได้พัฒนา WHO NCDs Best Buys ซึ่งเป็นตัวเลือกรายการมาตรการที่คุ้มค่าและมีประสิทธิผลในการป้องกันและควบคุมโรค NCDs โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำและสนับสนุนประเทศสมาชิกเร่งรัดการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการเพื่อการป้องกันและควบคุมโรค NCDs ในระดับประเทศ โดยสามารถพิจารณาเลือกรายการมาตรการดังกล่าวมาปรับใช้ตามความเหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศเพื่อการป้องกันและควบคุมโรค NCDs และเร่งรัดการบรรลุเป้าหมายระดับโลก คือ ลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรค NCDs ลง 1 ใน 3 ภายในปี 2573 ซึ่ง WHO ได้ชื่นชมประเทศไทยที่เป็นผู้นำระดับโลกในการดำเนินการ “NCDs Best Buys” ประกอบด้วย นโยบายบรรจุภัณฑ์ยาสูบแบบเรียบ ภาษียาสูบ นโยบายการกำจัดไขมันทรานส์ และภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล และยินดีสนับสนุนการเผยแพร่บทเรียนการดำเนินงานของประเทศไทย รวมถึงผลกระทบจากการดำเนินนโยบายเหล่านี้ในเวทีการประชุมระดับโลก อีกทั้งได้เสนอแนะในการสนับสนุนและผลักดันมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อเร่งรัดการป้องกันและควบคุมโรค NCDs ในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ การลดการบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย สร้างความตระหนักในระดับประชากรในการมีกิจกรรมทางกายในระดับที่เพียงพอ เป็นต้น

********************************* 12 มีนาคม 2568