กระทรวงสาธารณสุข มอบเงินจำนวน 30,000 บาท ช่วยเหลือครอบครัวของนางเรืองรอง แก้วไกรประธานอสม.ของตำบลตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา และสามีที่ถูกยิงเสียชีวิตและตัดศีรษะ เมื่อ 14 มกราคม 2550 พร้อมส่งนักจิตวิทยาลงเยียวยาด้านจิตใจครอบครัวใกล้ชิด ขณะเดียวกันจัดโครงการอสม.ชายแดนใต้ศึกษาดูงานภาคเหนือ สูดอากาศเย็น ผ่อนคลายเครียด วันนี้ (17 มกราคม 2550) นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้นายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปที่วัดยุโป ตำบลยุโป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เพื่อร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพของนางเรืองรอง แก้วไกร อายุ 38 ปี ประธานอาสาสมัครสาธารณสุข ประจำตำบลตาเซะ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตพร้อมสามีคือนายพิณ คชทิน ขณะขับขี่จักรยานยนต์ไปกรีดยาง เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2550 ที่ผ่านมา และคนร้ายได้ตัดศีรษะนายพิณด้วย โดยกระทรวงสาธารณสุขได้มอบเงินจำนวน 30,000 บาท ช่วยเหลือแก่ครอบครัวในเบื้องต้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน นายแพทย์พิพัฒน์กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความสะเทือนจิตใจแก่ครอบครัว และทุก ๆ คน เนื่องจากผู้ก่อการกระทำพฤติการณ์ที่โหดเหี้ยม กับครอบครัวที่ทำมาหากินอย่างสุจริต อีกทั้งนางเรืองรองยังเป็น เป็นคนดี ได้อาสาตัวเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขหรืออสม. ทำงานช่วยเหลือดูแลสุขภาพของชาวบ้านในตำบลตาเซะอย่างทุ่มเท เสียสละมาตลอดกว่า 10 ปี และเป็นประธาน อสม.ของตำบลตาเซะ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ให้นักจิตวิทยา ให้การดูแลด้านจิตใจแก่ครอบครัวของนางเรืองรอง ซึ่งมีแม่ พี่ และน้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุตรชายที่ยังเล็กอายุเพียง 6 ปีเท่านั้น ซึ่งทุกคนยังเสียขวัญ และวิตกกังวลอยู่บ้าง โดยกระทรวงสาธารณสุขจะให้การดูแลรักษาฟรีครอบครัวของนางเรืองรองตลอดชีวิต นอกจากนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา ได้ประสานกับศูนย์เยียวยาจังหวัดยะลา เพื่อรับเงินช่วยเหลือจำนวน 200,000 บาท พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยงานบำเพ็ญกุศล และคอยดูแลประคับประคองจิตใจญาติอย่างใกล้ชิด นายแพทย์พิพัฒน์กล่าวต่อว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ พ.ศ. 2547 เป็นต้นมามีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเสียชีวิต 8 คน อสม.เสียชีวิต 24 คน แม้จะต้องทำงานอย่างยากลำบาก อาสาสมัครสาธารณสุขในจังหวัดชายแดนใต้ซึ่งมีประมาณ 2,000 คน ก็ยังคงทุ่มเททำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่อย่างเต็มที่ กระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วง ไม่เคยทอดทิ้ง และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในทุก ๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยกับหน่วยงานซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับประชาชนครอบคลุมถึงหมู่บ้าน ได้ประสานงานกับหน่วยงานฝ่ายปกครองจัดระบบการดูแลเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอสม.อย่างเข้มแข็ง สำหรับการให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสมัครสาธารณสุขในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดตั้งในลักษณะของกองทุน และขณะนี้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกำลังพิจารณาปรับระเบียบการให้ความช่วยเหลือตามมาตรา 41 ให้ครอบคลุมถึงผู้ให้บริการด้วย รวมทั้งกรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้จัดโครงการให้อสม.จากจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา รุ่นละ 50 คน เดินทางไปศึกษาดูงานที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ กรุงเทพฯ กาญจนบุรี ในปลายเดือนนี้ เพื่อเยียวยาด้านจิตใจ ผ่อนคลายความตึงเครียด สร้างขวัญกำลังใจให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น มกราคม4/9 ************************ 17 มกราคม 2550


   
   


View 11    17/01/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ