รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สร้างความภาคภูมิใจให้วงการสาธารณสุข ด้านควบคุมการบริโภคยาสูบได้รับรางวัล World No Tobacco Day Award 2016 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในวันงดสูบบุหรี่โลก โดยมีผลงานโดดเด่นเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ คือ ผลักดันและสนับสนุนการยกร่างพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ และผลักดันแผนยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2559-2562


              ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้สร้างความภาคภูมิใจให้วงการสาธารณสุข โดยเฉพาะด้านควบคุมการบริโภคยาสูบ คือ ได้รับรางวัล World No Tobacco Day Award 2016 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในวันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2016 นี้ ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติระดับนานาชาติในการรณรงค์การควบคุมการบริโภคยาสูบ โดยองค์การอนามัยโลกจะมอบให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่อุทิศตนดำเนินกิจกรรมส่งเสริมสนับสนุนการควบคุมการบริโภคยาสูบอย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ซึ่งผลงานโดดเด่นที่ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้รางวัล คือ 1.ผลักดันและสนับสนุนการดำเนินการยกร่างพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ 2.ผลักดันให้เกิดแผนยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2559-2562


             ทั้งนี้ ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยังมีผลงานที่น่าสนใจ ได้แก่ การเป็นผู้นำการขับเคลื่อนงานควบคุมการบริโภคยาสูบของประเทศ มุ่งเน้นตามแผนยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติและตามกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WHO-Framework Convention on Tobacco Control : FCTC) ได้ออกระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการติดต่อระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ประกอบการ หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2559 เพื่อปกป้องการแทรกแซงนโยบายสาธารณะว่าด้วยการควบคุมยาสูบจากผู้ประกอบการและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ยาสูบ สนับสนุนกระทรวงการคลังในการปรับขึ้นภาษีบุหรี่ที่ขายในประเทศ ตามมาตรการด้านภาษีและราคาขององค์การอนามัยโลกจากร้อยละ 87 เป็นร้อยละ 90 รวมทั้งผลักดันให้มีการกำหนดแนวทางควบคุมการโฆษณา/การขายผลิตภัณฑ์ยาสูบในตลาดออนไลน์


               นอกจากนี้ ได้มีนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาวัยรุ่นสูบบุหรี่ ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผลักดันให้โรงเรียนในสังกัดเป็นโรงเรียนปลอดบุหรี่ 100 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2561  และผลักดันให้มีการจัดทำแผนป้องกันไม่ให้มีผู้เสพรายใหม่ เฝ้าระวังและบังคับใช้กฎหมาย เพื่อควบคุมการบริโภคยาสูบของสถานศึกษา รวมทั้งให้จัดบริการให้คำปรึกษาช่วยเลิกบุหรี่สำหรับประชาชนเพิ่มขึ้นอีก 500 แห่งทั่วประเทศ และทางสายด่วนช่วยเลิกบุหรี่ โทร. 1600   

 

**********************************  31 พฤษภาคม 2559

 



   
   


View 26    31/05/2559   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ