กระทรวงสาธารณสุข ชื่นชมการดูแลผู้ป่วยที่ให้ความสำคัญด้านจิตใจร่วมกับการรักษาโรคในผู้ป่วยระยะสุดท้าย อาทิ นั่งสมาธิ สวดมนต์ ฟังดนตรี ทำงานศิลปะ ออกกำลังกาย ส่งผลดีต่อการสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดโรคแทรกซ้อน
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวกรณีที่มีข่าวคลิปภาพเด็กชายวัย 9 ขวบที่ป่วยมะเร็ง เต้นตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน กับพยาบาล 2 คน ขณะรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ว่า กระทรวงสาธารณสุข รู้สึกชื่นชมการดูแลผู้ป่วยที่ให้ความสำคัญด้านจิตใจควบคู่กับการรักษาโรค ช่วยสร้างกำลังใจ เป็นตัวอย่างที่ดีในการรักษาโรคเรื้อรัง ขอชื่นชมน้องอี๊ด ซึ่งแม้ว่าจะเจ็บป่วยก็ยังแบ่งปันสร้างกำลังใจแก่ผู้ป่วยคนอื่นให้ต่อสู้กับโรคร้าย และขอชื่นชมพยาบาลที่ให้การดูแลด้วยหัวใจและความเอื้ออาทร
นายแพทย์สุวรรณชัยกล่าวต่อว่า ในการดูแลผู้ป่วยนั้น นอกจากดูแลสุขภาพกายแล้ว ยังต้องคำนึงถึงสุขภาพจิตด้วย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและเรื้อรัง ต้องไม่มุ่งรักษาทางกายอย่างเดียวจนมองข้ามความรู้สึกทางจิตใจ โดยนำกิจกรรมที่ผู้ป่วยสนใจ ทำแล้วเกิดความสุข เช่น นั่งสมาธิ สวดมนต์ ฟังดนตรี ทำงานศิลปะ ออกกำลังกาย ทำให้หลั่งฮอร์โมนเอ็นโดรฟินออกมามาก ช่วยให้สลายความเครียด เมื่อฮอร์โมนผ่อนคลายมากขึ้นความเครียดก็จะลดลง ส่งผลต่อการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ลดโรคแทรกซ้อน โดยที่ผ่านมาสถานบริการกระทรวงสาธารณสุขหลายแห่ง ก็ได้นำวิธีการดูแลจิตใจควบคู่กับการรักษาโรคมาตลอด อาทิ การให้พระภิกษุมานำสวดมนต์ เทศนาธรรมมะ ให้ทำงานศิลปะ และนำสัตว์เลี้ยงมาช่วยในการบำบัด การออกกำลังกาย เป็นต้น ซึ่งต้องคำนึงถึงสุขภาพกายของแต่ละคนและแต่ละโรคด้วยตามความเหมาะสม นอกจากนี้ ได้ขยายบริการดูแลผู้ป่วยที่อยู่ในระยะสุดท้ายที่บ้าน โดยมีทีมสหวิชาชีพจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ร่วมกับโรงพยาบาลชุมชน และอสม. ออกไปให้การดูแลที่บ้านอย่างต่อเนื่อง
*************************** 24 พฤษภาคม 2559