พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดการประชุมวิชาการพัฒนาจริยธรรมกระทรวงสาธารณสุขปี 2550 และทรงประทานโล่แก่ 14 หน่วยงานในสังกัด ที่มีการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมดีเด่น โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าพัฒนาให้สถานบริการในสังกัดทั่วประเทศ เป็นสถานปลอดเหล้า ปลอดบุหรี่ เปิดโครงการจิตอาสาในโรงพยาบาล ดึงสายใยความเอื้อเฟื้อกลับคืนสังคมไทย วันนี้ (22 สิงหาคม 2550) เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมเดอะแกรนด์ อยุธยา บางกอก กรุงเทพมหานครพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดการประชุมวิชาการพัฒนาจริยธรรมของกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2550 ครั้งที่ 2 เรื่อง “คุณธรรม นำการพัฒนาสาธารณสุขไทย” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 24 สิงหาคม 2550 ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย สมาชิกชมรมจริยธรรมจาก 333 ชมรมทั่วประเทศ ประมาณ 800 คน โดยมีนายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารระดับสูง และข้าราชการเฝ้ารับเสด็จ ฯ ในการนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ทรงประทานเหรียญที่ระลึกแก่ผู้สนับสนุนการพัฒนาจริยธรรมกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 10 ราย และทรงประทานโล่แก่ผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่มีผลการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมดีเด่นจำนวน 14 แห่ง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงประทานพระดำรัสในการเปิดประชุมว่า การที่บุคลากรสาธารณสุขจากทั่วประเทศมาร่วมประชุมในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงพลังของคุณความดี ที่ทุกคนมีความคิด ความตั้งใจ และพร้อมที่จะส่งเสริมสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนางานสาธารณสุข โดยใช้พลังคุณธรรมและจริยธรรม ให้เกิดขึ้นในหน่วยงานและสังคม ซึ่งจะช่วยให้การบริการสาธารณสุขมีคุณภาพในวงกว้าง ก่อให้เกิดความสุข ความประทับใจ ความพึงพอใจ ทั้งผู้ให้บริการและประชาชนผู้รับบริการ นำพาประเทศไทยไปสู่สังคมแห่งคุณธรรม และก่อให้เกิดสันติสุขอย่างยั่งยืน นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กราบทูลรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายสร้างเสริมวัฒนธรรมองค์กรทุกระดับ ตามวาระแห่งชาติของรัฐบาล โดยเน้นระบบคุณธรรม ความสัมพันธ์แบบพี่น้อง วัฒนธรรมความเรียบง่าย มีความสมานฉันท์ ระบบบริหารจัดการแบบมืออาชีพที่มีความเป็นธรรมาภิบาล โดยสนับสนุนให้บุคลากรได้รับการพัฒนาด้านคุณธรรมจริยธรรม สามารถปฏิบัติงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ บริสุทธิ์ ยุติธรรม ให้บริการประชาชนอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน นอกจากนี้ ยังมีนโยบายให้สถานบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง ปลอดอบายมุขทั้งเหล้าและบุหรี่ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้เป็นสถานที่สร้างสุขภาพดี ไม่มีสิ่งทำลายสุขภาพ และให้เจ้าหน้าที่ส่าธารณสุขปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่างที่ดีของประชาชน ในส่วนของประชาชน ได้จัดทำโครงการจิตอาสาในโรงพยาบาล เพื่อดึงวัฒนธรรมสังคมไทยที่มีความเอื้อเฟื้อ ห่วงใยกัน มาดูแลช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ป่วยในโรงพยาบาลตามศักยภาพที่จะช่วยได้ โดยเฉพาะเด็กๆ จะทำให้เป็นผู้มีความเมตตา มีจิตใจอ่อนโยน และมีความเสียสละช่วยเหลือสังคมต่อไป ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม (พ.ศ. 2550 – 2554) ขึ้น เพื่อให้บุคลากรกว่า 200,000 คนของกระทรวงสาธารณสุข เป็นคนดี มีคุณธรรมในการดำเนินชีวิตและการทำงาน โดยเน้น 5 เรื่องใหญ่ ได้แก่ การสร้างเสริมคุณธรรม จริยธรรมที่ดีงามให้เป็นวิถีชีวิต การส่งเสริมต้นแบบทางวัฒนธรรมและกระบวนการเรียนรู้ค่านิยมของบุคลากร การสร้างวัฒนธรรมองค์กร ขนบธรรมเนียม ประเพณีที่ดีงามในสังคมสาธารณสุข การสร้างเสริมคุณธรรมและระบบธรรมาภิบาลในองค์กร และการพัฒนาการมีส่วนร่วมและสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายและทุกภาคส่วนของสังคม โดยได้จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมที่สถาบันพระบรมราชชนก ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานเครือข่ายชมรมจริยธรรม ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยตั้งเป้าหมายปี 2550 ขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมระดับอำเภออย่างน้อยร้อยละ 25 ในทุกจังหวัด ขณะนี้มีชมรมจริยธรรมเกิดขึ้นแล้ว 333 ชมรม ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ สำหรับบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งแพทย์ พยาบาล และบุคลากรต่าง ๆ ได้มีการปลูกฝังเรื่องคุณธรรม จริยธรรมมาตั้งแต่เริ่มศึกษา ให้มีจิตใจของผู้ให้บริการที่มีความเสียสละ อยากให้ผู้ป่วยมีความสุขสบาย โดยการดูแลผู้ป่วยเสมือนญาติ และบรรจุวิชาจริยธรรมของวิชาชีพเป็นวิชาหลัก รวมทั้งการเรียนการสอนทุกรายวิชาจะสอดแทรกคุณธรรมและจริยธรรมด้วย นายแพทย์มงคลกล่าวต่อไปว่า ในปีนี้ได้เริ่มเน้นคุณธรรม เรื่องการขึ้นปฏิบัติงานตรงเวลา ซึ่งเป็นวินัยขั้นพื้นฐานของเจ้าหน้าที่ นำร่องในหน่วยงานสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขและสถาบันพระบรมราชชนก เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เบียดบังเวลาราชการ ตั้งเป้าหมายให้ได้ร้อยละ 80 โดยจะประเมินผลและให้รางวัลแก่หน่วยงานที่ผ่านเกณฑ์ในเดือนพฤศจิกายน 2550 และจะขยายไปยังหน่วยงานในส่วนภูมิภาคต่อไป ************************** 22 สิงหาคม 2550


   
   


View 14    22/08/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ