จักษุแพทย์ เตือนช่างไม้ ช่างปูน ช่างเหล็กอาชีพ หรือช่างสมัครเล่น อย่าซื้อค้อนราคาถูก โดยเฉพาะที่วางขายแบกะดิน ตลาดนัด มาใช้ในการทำงาน เช่น ตอกตะปู เสี่ยงเกิดการแตกบิ่น เศษเหล็กกระเด็นทะลุลูกตาหรือเรียกว่าค้อนบิน ถึงขั้นตาบอดได้ พบผู้ป่วยได้บทเรียนมาแล้ว แนะวิธีการป้องกันต้องใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน  ขณะทำงานต้องสวมแว่นตาหรือเครื่องป้องกันดวงตา และต้องมีสติเสมอในการทำงาน ไม่ควรทำงานในที่แสงสลัว

          นายแพทย์ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี ให้สัมภาษณ์ว่า ดวงตาเป็นอวัยวะที่ทำให้เราสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ เพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ จำเป็นต้องดูแลระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนหรือเกิดอุบัติเหตุต่อดวงตา กลุ่มที่มีความเสี่ยงอันตรายสูงจากอุบัติเหตุต่อดวงตา ที่พบได้บ่อยคือ ผู้ที่ประกอบอาชีพช่างต่างๆ ที่ต้องใช้เครื่องมือในการทำงาน หรือประชาชนทั่วไปที่เป็นช่างจำเป็นหรือที่เรียกว่าช่างสมัครเล่นที่ทำงานซ่อมแซมอุปกรณ์ภายในบ้านตนเอง โดยรายล่าสุดพบเมื่อเร็วๆนี้ คือกรณีช่างไม้ใช้ค้อนที่ไม่ได้มาตรฐานตอกตะปู ทำให้ปลายค้อนบิ่น แตกเป็นเศษเล็กๆ เรียกว่าเศษค้อนบินเข้าลูกตา บริเวณขอบตาดำมีรอยเล็กๆแทบมองไม่เห็น หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์อาจไม่คิดถึงว่าจะมีเศษค้อนกระเด็นเข้าไปในลูกตา รายนี้ผลเอกซเรย์พบว่ามีเศษค้อนทะลุเข้าไปในลูกตา ทำให้เส้นเลือดที่ประสาทตาแตก มีน้ำวุ้นลูกตาไหลออกมา ต้องส่งตัวไปผ่าตัดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจอประสาทตา นำเศษค้อนออกจากดวงตาทันที เพื่อไม่ให้ตาอักเสบติดเชื้อหรือมีเลือดออกในลูกตาซึ่งจะทำให้ตาบอดตามมาได้

            “ขอย้ำเตือนประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ประกอบอาชีพเป็นช่างไม้ ช่างเหล็ก ช่างปูน ที่ต้องใช้ค้อนตอกตะปู ตีเหล็กหรือทุบปูน ห้ามซื้อค้อนราคาถูกมาใช้ เนื่องจากมักเป็นค้อนที่ไม่ได้มาตรฐาน ค้อนเหล่านี้มักวางขายตามตลาดนัดหรือวางขายแบกะดิน ซึ่งมีโอกาสแตกบิ่นสูงมาก ขอให้ใช้อุปกรณ์ที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานหรือที่เรียกว่าไอเอสโอ (ISO) และมีการรับประกันคุณภาพการผลิต (USA Approved) หากไม่แน่ใจในมาตรฐานของอุปกรณ์ที่ซื้อ แนะนำให้ซื้อตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่เชื่อถือได้เท่านั้น เพราะสามารถเปลี่ยนคืนได้ และยังคุ้มครองความปลอดภัยของอวัยวะต่างของเราที่จะเกิดจากอุปกรณ์ที่เราซื้อได้อีกด้วย” นายแพทย์ฐาปนวงศ์กล่าว

          นายแพทย์ฐาปนวงศ์กล่าวต่อว่า   ในการป้องกันอุบัติเหตุต่อดวงตาและอุบัติเหตุต่อร่างกายส่วนอื่นๆ สิ่งสำคัญคือผู้ที่มีอาชีพช่างต้องไม่ประมาท มีความรอบคอบและมีสติอยู่เสมอขณะทำงาน ไม่ควรทำงานขณะง่วงนอน หรือมีแสงสว่างไม่เพียงพอ ประการสำคัญขณะทำงานจะต้องสวมแว่นหรือเครื่องป้องกันอันตรายต่อดวงตาทุกครั้ง และขอแนะนำให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานเหล่านี้ เช่นเด็กเล็ก ให้หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้เพราะอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายโดยไม่ทันรู้ตัวได้

               ทั้งนี้ อุบัติเหตุต่อดวงตาที่เกิดจากการทำงาน ทั้งงานในอาชีพหรือไม่ใช่อาชีพ ที่พบได้บ่อยมี 3 ประการ คือ 1.ถูกของแข็งที่เป็นเศษวัสดุหรือเศษอุปกรณ์ เช่นเศษเหล็ก เศษไม้ ตะปูมีการแตกร่อน กระเด็นเข้าดวงตา อาจทำให้เส้นเลือดเยื่อบุตาแตกหรือฉีก หากรุนแรงมากทะลุเข้าในตาดำจะทำให้กระจกตาดำแตกหรือทะลุ เลนส์แก้วตาแตก หากไม่ได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจตาบอดหรือสูญเสียลูกตาได้ 2.ถูกสารเคมีที่เป็นกรดหรือด่างกระเด็นเข้าดวงตา และ3.ถูกควันที่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่างเข้าตา ระดับอันตรายหรือความรุนแรงขึ้นอยู่กับขนาดของวัตถุที่กระเด็นเข้าตา  ความแรงของวัตถุที่พุ่งเข้าตา  และความเข้มข้นของกรดหรือด่างในสารเคมีที่เข้าตา

         

          นายแพทย์ฐานปนวงศ์กล่าวต่อไปว่า ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมกระเด็นเข้าตา หากของแข็งเช่น เศษเหล็กหรือเศษไม้กระเด็นเข้าตา ห้ามขยี้หรือล้างตาโดยเด็ดขาด เนื่องจากจะทำให้กระจกตาเป็นแผล และติดเชื้อลุกลามได้รวดเร็ว ขอให้ใช้ผ้าสะอาดปิดตา และรีบนำส่งโรงพยาบาล หรือพบจักษุแพทย์ที่อยู่ใกล้เคียงทันที หากถูกสารเคมีที่เป็นของเหลวหรือน้ำกระเด็นเข้าตา ให้รีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดให้มากที่สุด เพื่อเจือจางกรดหรือด่างของสารเคมี ให้น้อยที่สุดและช่วยบรรเทาอาการแสบตา หากอาการแสบตายังไม่ทุเลา  หรือตามัวลง ขอให้ไปพบจักษุแพทย์ทันที

***********************************  25 กุมภาพันธ์ 2556



   
   


View 13    25/02/2556   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ