บ่ายวันนี้ (28 พฤศจิกายน 2555) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธาณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมมอบนโยบายว่าในการดำเนินงานให้ยึดนโยบายของรัฐบาล นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข และนโนบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดีและพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน  ซึ่งในวันนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทุกหน่วยงานรายงานผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดทุก 1 เดือนในภารกิจที่สามารถวัดได้ เสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อติดตาม ปรับปรุงการดำเนินงานให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

          นายแพทย์ชลน่านกล่าวต่อว่า ได้มอบนโยบายให้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ สนับสนุนให้คนไทยได้รู้คุณค่าภูมิปัญญาไทย เพื่อขับเคลื่อนให้คนไทยมีสุขภาพดี นำการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเข้าสู่ระบบบริการสาธารณสุขให้ทัดเทียมแพทย์แผนปัจจุบัน ตั้งเป้าปี 2556 จะเพิ่มบริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกที่ได้มาตรฐานจากเดิมร้อยละ 11 เป็นร้อยละ 14  และมูลค่าการใช้ยาสมุนไพรเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ซึ่งจะต้องสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัย ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของยาสมุนไพร และได้ให้เพิ่มการนำสมุนไพรไทยมาใช้ในการส่งเสริมสุขภาพ เพื่อปรับความสมดุลย์ของธาตุในร่างกายสอดคล้องกับวิถีการแพทย์แผนไทย ทั้งสมุนไพร อาหาร และผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ นอกจากใช้เป็นยารักษาโรค ซึ่งจะทำให้ได้รับการยอมรับมากขึ้น   
          นอกจากนี้  จะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผลักดันโครงสร้างการบริหารของกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ซึ่งมีหน่วยงานที่ตั้งขึ้นเป็นการภายในรองรับภารกิจกรมเพิ่มเติม เช่นสำนักการแพทย์พื้นบ้านไทย สำนักคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย สถาบันการแพทย์ไทย-จีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เพื่อให้เป็นโครงสร้างที่ถูกต้องตามกฎหมาย และจะดูแลกฎหมายวิชาชีพแพทย์แผนไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างทูลเกล้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยประกาศให้เป็นกฎหมาย โดยจะมีผลบังคับใช้ถัดจากวันประกาศ และจะผลักดันการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.การประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 และพ.ร.บ.สถานพยาบาล เพื่อให้สอดรับกับกฎหมายวิชาชีพแพทย์แผนไทย สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเข้าสู่ระบบบริการสาธารณสุขอย่างราบรื่น
          ด้านนายแพทย์สมชัย นิจพานิช อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ขณะนี้ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ได้ส่งเสริมภูมิปัญญาไทยและสมุนไพรไทย โดยวางแผนจะสนับสนุนให้มีสวนสมุนไพรในทุกหน่วยงาน ในส่วนของชุมชน/หมู่บ้านให้มีสวนสมุนไพรเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 2 ไร่ เพื่อเป็นแหล่งสมุนไพรในชุมชน และส่งเสริมกระบวนการผลิตสมุนไพรที่ได้มาตรฐาน มีโรงงานผลิตยาสมุนไพรกลาง เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยผู้บริโภค และมีการนำการแพทย์แผนไทยสมุนไพรไทยไปใช้ประโยชน์แก่ประชาชน ซึ่งภายใน 10 ปีนี้ ตั้งเป้าจะจัดทำเกณฑ์มาตรฐานเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพด้านการแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลทุกระดับรวม 10,670 แห่ง มีโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยต้นแบบ 20 แห่ง และศูนย์ส่งเสริมและฝึกอบรมการแพทย์แผนไทยฯ กระจายทุกภาครวม 12 แห่ง
          นอกจากนี้ ได้เตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยจะชูชุดผลิตภัณฑ์สมุนไพรเบญจภาคี ประกอบด้วย กวาวเครือ ไพล กระชายดำ บัวบก และข้าว/ผลิตภัณฑ์จากข้าว เป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของไทยเพื่อสร้างเป็นจุดขายของประเทศ ดึงเงินเข้าสู่ประเทศไทย ********** 28 พฤศจิกายน 2555


   
   


View 11    28/11/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ