“สมศักดิ์” ยกระดับหมอนวดไทยเชี่ยวชาญพิเศษ 7 กลุ่มอาการ เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย หนุนเศรษฐกิจสุขภาพ
- สำนักสารนิเทศ
- 451 View
- อ่านต่อ
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2555 เร่งเดินหน้าตั้งคณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการบริหาร เพื่อเดินหน้า 5 ยุทธศาสตร์พัฒนาวัคซีนในประเทศให้เพียงพอใช้ เบื้องต้นใช้งบประเดิม 10 ล้านบาทและเตรียมของบประมาณจากครม.เพิ่มอีก คาดว่าในปี 2560 ไทยจะส่งออกวัคซีน 5 ชนิดได้
วันนี้ (26 พฤศจิกายน 2555) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติครั้งที่ 2 ประจำปี 2555 ว่า การประชุมในวันนี้เป็นการประชุมของคณะกรรมการตามบทเฉพาะกาล เพื่อพิจารณาร่างระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติชุดใหญ่ โดยได้ตั้งคณะกรรมการสรรหา 1 ชุด จำนวน 5 คน ประกอบด้วย 1.ปลัดกระทรวงสาธารณสุข 2.ที่ปรึกษาคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ที่ประธานกรรมการวัคซีนแห่งชาติมอบหมาย 3.ที่ปรึกษากรมควบคุมโรคด้านโรคติดต่ออุบัติใหม่ วัคซีน และระบาดวิทยา ที่ประธานกรรมการวัคซีนแห่งชาติมอบหมาย 4.เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา 5.อธิบดีกรมควบคุมโรค โดยมีผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เป็นเลขานุการ ซึ่งหน้าที่ของกรรมการชุดนี้คือจะต้องสรรหาและแต่งตั้งประธานและกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติ มีวาระ 4 ปีให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด หลังจากที่พระราชกฤษฎีกาการจัดตั้งสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้ผ่านการเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2555ที่ผ่านมา โดยการดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารและการจัดของบประมาณ จะต้องเสร็จสิ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2556
นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า สถาบันวิจัยวัคซีนแห่งชาติเป็นองค์กรมหาชน เป็นหน่วยงานที่มีความเป็นอิสระ มีหน้าที่ดูแลความมั่นคงของวัคซีนในประเทศทั้งในภาวะปกติและฉุกเฉิน ตลอดจนการวิจัยวัคซีน ซึ่งจะต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆทั้งในและนอกประเทศ โดยงบประมาณที่จะได้รับนั้นในช่วงแรกในการเริ่มดำเนินงานจะใช้งบประมาณของกรมควบคุมโรคซึ่งจะเป็นในส่วนของค่าบริหารจัดการ ค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ ประมาณ 10 ล้านบาท หลังจากนั้นจะใช้งบประมาณของรัฐบาลซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี ในเบื้องต้นนี้ได้วางยุทธศาสตร์พัฒนา 3 ปีแรก ตั้งแต่พ.ศ. 2556-2558
ทั้งนี้ยุทธศาสตร์ของสถาบันวิจัยวัคซีนแห่งชาติกำหนดไว้ 5 ด้าน ได้แก่ 1.สร้างความเข้มแข็งให้หน่วยงานกลางด้านวัคซีน ให้มีความยืดหยุ่นคล่อง ตัว 2.พัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านวัคซีนอย่างครบวงจรเอื้อต่อการพัฒนาวัคซีนของประเทศ 3.จัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านวัคซีนอย่างครบวงจรและได้มาตรฐานสากล จะมีโรงงานกึ่งอุตสาหกรรม 2 แห่ง มีศูนย์ทรัพยากรชีวภาพ มีคลังเก็บวัคซีนมาตรฐาน มีโรงงานผลิตวัคซีนบีซีจี และศูนย์วิจัยวัคซีนป้องกันวัณโรคชนิดใหม่ 4.พัฒนาศักยภาพเครือข่ายด้านวัคซีนในประเทศให้มีความสามารถในการวิจัยพัฒนาและผลิตวัคซีนที่ได้มาตรฐานสากล ได้แก่ 1.วัคซีนแดงกี่ ป้องกันโรคไข้เลือดออก 2.วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีด้วยเทคนิคพันธุวิศวกรรม 3.และ4.วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ตับอักเสบบีชนิดรวมและแยกเดี่ยวและ5.วัคซีนบีซีจี ศูนย์วิจัยวัคซีนป้องกันวัณโรคชนิดใหม่ ตั้งเป้าระบบการผลิตวัคซีนในประเทศจะได้มาตรฐานสากลทั้งหมดในปี 2559 และคาดว่าจะส่งออกวัคซีนที่ผลิตในประเทศในปี 2560 และ5.บริหารจัดการองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านวัคซีนของประเทศอย่างเป็นระบบ
********************** 26 พฤศจิกายน 2556