กระทรวงสาธารณสุข เร่งรัดผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกระดับ   วางแผนการจัดซื้อจัดจ้าง เข้มงวดระบบการจัดซื้อจัดจ้างการก่อสร้าง การจัดซื้อจัดหาพัสดุครุภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ซึ่งจะส่งผลทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณตามมติคณะรัฐมนตรี ให้ถูกต้อง ทันเวลา ตามระเบียบกฎหมาย ป้องกันปัญหาการทุจริต หรือการกระทำผิดระเบียบโดยไม่ตั้งใจ    
           วันนี้ (29 ตุลาคม 2555)  ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพฯ  นายแพทย์โสภณ เมฆธน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดอบรมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป/โรงพยาบาลชุมชน/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล  และเจ้าหน้าที่พัสดุทั่วประเทศ ในโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการบริหารพัสดุ การจัดการระบบควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยงของหน่วยงานในสังกัด ได้พัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดหาพัสดุ  ป้องกันการดำเนินงานที่ไม่ถูกต้อง อันจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการในรูปแบบต่างๆ
            นายแพทย์โสภณ กล่าวว่า ขณะนี้ ระบบการเงินการคลัง ระบบการจัดซื้อจัดจ้าง มีการเปลี่ยนแปลง โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อให้การปฏิบัติงานมีความรวดเร็ว โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งผู้บริหาร หรือหัวหน้างาน และผู้ปฏิบัติงานของหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข  อาจยังไม่เข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติงาน ทำให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ และอาจได้รับโทษ เช่นการจัดซื้อจัดจ้างทุกครั้งต้องมีการเขียนทีโออาร์  (TOR : Terms of Reference) เพื่อเป็นข้อตกลงที่ให้ผู้รับจ้างดำเนินการ รวมทั้งความรับผิดชอบอื่นๆ ของผู้รับจ้างที่เกี่ยวข้องกับภารกิจนั้น ทั้งนี้ รัฐบาลได้ให้ทุกหน่วยงานเร่งจัดทำแผนงบประมาณปี 2556 ให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้การใช้งบประมาณเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศสูงสุด
           อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติงานตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) และระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันความเสียหายต่อทางราชการ โดยข้อมูลจากกลุ่มตรวจสอบภายในระดับกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข พบว่า แต่ละปีจะพบข้อสังเกตที่ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้าไม่เป็นไปตามมติ ครม. ที่เกิดจากการบริหารสัญญา การกำหนดคุณลักษณะ การจัดเก็บพัสดุ การตรวจรับและการจัดทำรายงานตรวจสอบพัสดุปลายปีไม่ถูกต้อง จึงมอบนโยบายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้กลุ่มตรวจสอบภายในระดับกระทรวงฯ เร่งพัฒนาความรู้ความเข้าใจผู้บริหารและเจ้าหน้าที่พัสดุ ในเรื่องกฎระเบียบต่างๆ และการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากกรมบัญชีกลาง และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เป็นวิทยากรให้ความรู้ เพื่อให้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว โปร่งใสทุกขั้นตอน และสามารถตรวจสอบได้ เพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่ไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการปฏิบัติงาน
          ทั้งนี้ ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข มีหน่วยบริการในสังกัดทั่วประเทศที่ต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ประกอบด้วย  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด  76 แห่ง โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป 95 แห่ง โรงพยาบาลชุมชน 741 แห่ง สถานีอนามัย 27 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 9,756 แห่ง รวมหน่วยบริการทั้งสิ้น 10,695 แห่ง       

 ************************** 29 ตุลาคม 2555



   
   


View 11    29/10/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ