Breadcrumbs Image

“จุรินทร์”สั่งผู้ตรวจราชการ ลงพื้นที่ตรวจสอบ 2 โรงพยาบาลภาคอีสานที่มีการเบิกจ่ายยาแพงกว่าความเป็นจริง สั่งการกำชับโรงพยาบาลให้จ่ายยาและคิดราคายาตามเกณฑ์กระทรวงการคลังกำหนดโดยเคร่งครัด

  • หน้าหลัก
  • ข่าวเพื่อมวลชน
  • “จุรินทร์”สั่งผู้ตรวจราชการ ลงพื้นที่ตรวจสอบ 2 โรงพยาบาลภาคอีสานที่มีการเบิกจ่ายยาแพงกว่าความเป็นจริง สั่งการกำชับโรงพยาบาลให้จ่ายยาและคิดราคายาตามเกณฑ์กระทรวงการคลังกำหนดโดยเคร่งครัด


จากกรณีที่กรมบัญชีกลางตรวจสอบพบข้อมูลค่ารักษาพยาบาลของครอบครัวข้าราชการในระบบจ่ายตรงในโรงพยาบาลเรณูนคร จังหวัดนครพนม และโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ส่อแววทุจริต หลังพบข้อมูลมีการรับยาแทนแต่ยาไม่ถึงมือคนป่วย รวมทั้งการสั่งซื้อยานอกบัญชีแพงกว่าความเป็นจริง 120 ล้านบาท จนต้องส่งเรื่องให้ดีเอสไอตรวจสอบนั้น

วันนี้(11 เมษายน 2554)ที่กระทรวงสาธารณสุข นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวภายหลังประชุมผู้บริหารระดับสูง ว่า กรมบัญชีกลางได้เรียกประชุมโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยนอกเกินกว่า 1 แสนคนต่อปี ทั้งหมด 34 แห่ง ซึ่งมีการเบิกจ่ายยามากกว่าร้อยละ 50 ของค่ายาทั้งประเทศรวมกัน ในจำนวนนี้เป็นโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 17 แห่ง กรมบัญชีกลางได้มอบให้สำนักงานกลางสารสนเทศบริการสุขภาพ(สกส.)ดำเนินการตรวจสอบโรงพยาบาล และเมื่อมีข้อมูลที่คิดว่าไม่ปกติ ได้ส่งให้ดีเอสไอตรวจสอบ
นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับในกรณีดังกล่าวนี้ ในวันนี้ที่ประชุมมีมติดังนี้ 1.ได้ดำเนินการสั่งการและกำชับในเรื่องของการจ่ายยาและการคิดราคายาให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนดโดยเคร่งครัด 2.ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการเขตจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดนครพนม ได้สอบข้อเท็จจริง 3.กรณีที่กรมบัญชีกลางได้มีการเรียกคืนเงิน ในการจ่ายยาโดยแพทย์บางรายในบางโรงพยาบาล ขอให้กรมบัญชีกลางแจ้งให้กระทรวงสาธารณสุขทราบด้วยถ้าเป็นโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข   4.หากดีเอสไอ มีข้อมูลส่งให้ กระทรวงสาธารณสุข   กระทรวงสาธารณสุขก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือและดำเนินการตามขั้นตอน
ด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นไปยังโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี โดยโรงพยาบาลฯได้ชี้แจงว่าในภาพรวมได้เพิ่มจุดตรวจผู้ป่วย โดยเพิ่มการตรวจจากผู้เชี่ยวชาญ 10 สาขา เป็น 25 สาขา ดังนั้นจึงทำให้ทั้งจำนวนผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยนอกปีละ 630,000 คน และผู้ป่วยในปีละ 90,000 คน ดังนั้นเมื่อจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น จึงทำให้การใช้ยาเพิ่มขึ้น ส่วนที่โรงพยาบาลเรณูนคร จังหวัดนครพนม ขณะนี้มีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการบันทึกข้อมูลผู้ป่วย ซึ่งอาจเกิดการผิดพลาดด้านข้อมูล ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบข้อมูลของทั้ง 2 โรงพยาบาล    โดยได้ให้ผู้ตรวจราชการเข้าไปสืบข้อเท็จจริง   ซึ่งจะนำข้อมูลจากดีเอสไอ ไปให้กรรมการเพื่อหาข้อเท็จจริงเพิ่มต่อไป
          **************         11 เมษายน 2554


   
   


View 13    11/04/2554   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ