Breadcrumbs Image

“จุรินทร์” เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อซื้อเครื่องสำอางผสมสเต็มเซลล์ ลดริ้วรอย ชะลอแก่ ชี้เป็นสารมีอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากสเต็มเซลล์ถือเป็นยา ไม่สามารถนำมาผสมในเครื่องสำอางพื้นฐานได้ หากพบเบาะแส

  • หน้าหลัก
  • ข่าวเพื่อมวลชน
  • “จุรินทร์” เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อซื้อเครื่องสำอางผสมสเต็มเซลล์ ลดริ้วรอย ชะลอแก่ ชี้เป็นสารมีอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากสเต็มเซลล์ถือเป็นยา ไม่สามารถนำมาผสมในเครื่องสำอางพื้นฐานได้ หากพบเบาะแส


สายด่วน อย. 1556 มีรางวัลสินบนนำจับ

วันนี้(20 กรกฎาคม 2553) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) และพล.ต.ต.จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) ร่วมกันแถลงข่าว “การตรวจจับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมาย”  

               นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน จึงได้ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เข้าไปตรวจค้นสถานที่ผลิต 2 แห่ง เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2553 ผลการตรวจค้นแห่งแรกคือ บริษัทคิว.บี.ซี.ไอ.(ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 1138/360 ซอยตรอกวัดจันทร์ใน ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง ยานนาวา กรุงเทพฯ พบว่า เป็นสถานที่ผลิต และรับจ้างผลิต โดยผลิตเครื่องสำอางที่อ้างว่าผสมสเต็มเซลล์ สามารถลดรอยเหี่ยวย่นและชะลอความแก่ได้ ยี่ห้อ Boo White Phytostemcellและรับจ้างผลิต ขณะเข้าตรวจค้น พบว่ากำลังผลิต มีคนงานประมาณ 10 คน พบใบสั่งซื้อสารต้องห้าม เช่น ไฮโครควิโนน ไมน็อกซิดิล เป็นต้น จึงได้อายัดเครื่องจักร อุปกรณ์ต่างๆรวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง 26 รายการ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

จุดที่ 2 เข้าตรวจค้นบริษัท ซิเนเต้ เบบี้เฟซ เน็ทเวิร์ค จำกัด เลขที่ 20 ซอยสุขุมวิท 23 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ พบว่าเป็นสถานที่ผลิตเครื่องสำอางผสมสารต้องห้าม เช่น ไฮโดรควิโนน สารปรอท และกรดวิตามินเอ โดยจำหน่ายผ่านอินเตอร์เน็ต จึงได้อายัดไว้ทั้งหมด 300 ชุด มูลค่าประมาณ 2 แสนบาท
            
ในเบื้องต้นได้ดำเนินคดี แหล่งผลิตเครื่องสำอางทั้ง 2 แห่งนี้ 3 ข้อหา คือ 1. ฉลากแสดงข้อความเป็นเท็จ ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. เครื่องสำอางแสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3. หากผลการวิเคราะห์พบสารห้ามใช้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า ผลการตรวจจับแหล่งผลิตเครื่องสำอางที่เป็นอันตราย 2 แห่งนี้ ถือเป็นผลงานส่วนหนึ่งของผู้ที่ปรารถนาดี ช่วยแจ้งเบาะแสให้อย. ถือว่ามีส่วนช่วยงานของราชการได้มาก ซึ่งในช่วงหลังมีผู้แจ้งเข้ามามากขึ้น เนื่องจากเห็นว่านโยบายของกระทรวงสาธารณสุขมีความชัดเจนที่เอาจริงกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับผลิตภัณฑ์ทั้งทางด้านอาหาร ยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ที่ได้มาตรฐานและถูกต้องตามกฎหมาย หากมีผู้แจ้งเข้ามาและสามารถจับกุมได้ ถือว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง จะมีรางวัลสินบนนำจับ จะจ่ายทันทีที่เข้าจับกุมแล้วเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายจริง ไม่ต้องรอกระบวนการทางยุติธรรม ขอฝากประชาชนที่มีความปรารถนาดี หากพบการกระทำผิดดังกล่าว ให้แจ้งมาที่สายด่วน อย. 1556
 “ที่ผ่านมาอย.และตำรวจ ปคบ. มีการจับกุมเป็นระยะๆ ขอฝากเตือนประชาชนและร้านจำหน่ายต้องใช้ความระมัดระวัง หากไม่มั่นใจว่าถูกหรือผิดกฎหมายหรือไม่ ให้สอบถามมาที่สายด่วนอย.1556 นอกจากการบังคับใช้กฎหมายแล้ว จะทำควบคู่ไปกับการรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนด้วย เพื่อให้ผู้บริโภคหลีกเลี่ยงในการซื้ออาหาร ยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ที่ผิดกฎหมายมาบริโภค ซึ่งส่วนใหญ่จะมีราคาแพง เนื่องจากมีการโฆษณาเกินจริง และใส่สารต้องห้าม เมื่อใช้ระยะยาวจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ” นายจุรินทร์ กล่าว
ทางด้านนายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวว่า ขอเตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อและซื้อเครื่องสำอางยี่ห้อดังกล่าวมาใช้ โดยทางอย.ยังไม่เคยอนุญาตให้ใช้สเต็มเซลล์ในเครื่องสำอาง เพราะนอกจากอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้แล้ว ยังเป็นการสิ้นเปลืองเงินโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย   ตามกฏหมายยาพ.ศ. 2510 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม สเต็มเซลล์ถือเป็นยา ไม่สามารถนำมาผสมในเครื่องสำอางพื้นฐานได้ โดยในกฎหมายยา แพทย์สามารถผลิตและจ่ายให้ผู้ป่วยที่มารักษาในคลินิกได้เท่านั้น จากการที่บริษัทไปรับจ้างผลิตให้ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายไม่อนุญาตให้มีการผลิตในลักษณะที่ไม่ต้องขออนุญาต เพราะเข้าข่ายเป็นยา หากมีแพทย์ในคลินิกสั่งซื้อไปจำหน่าย อย.จะประสานงานกับตำรวจเข้าไปดำเนินการต่อไป
 นายแพทย์พิพัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า อย.ดำเนินการตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเฉพาะเครื่องสำอางทั้งผู้ผลิตและแหล่งจำหน่ายต้องไม่มีสารห้ามใช้ และไม่โฆษณาโอ้อวดเกินจริง ได้อบรมเรื่องการจำหน่ายให้ศูนย์การค้าใหญ่ๆ และร้านค้าย่อยแล้ว และผู้บริโภคต้องระมัดระวังการโฆษณาโอ้อวดเกินจริงด้วย หากสงสัยให้สอบถามสายด่วนอย.1556 โดยเฉพาะการโฆษณาที่ทำให้หน้าขาว แก้ฝ้า ในท้องตลาดส่วนใหญ่จะใส่สารห้ามใช้
**************************   20 กรกฎาคม 2553
 


   
   


View 6       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ