อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้โรคเอดส์ยังคงคุกคามสุขภาพคนไทย คาดทั่วประเทศมีผู้ติดเชื้อ/ผู้ป่วยที่ต้องให้การดูแลประมาณ 500,000 ราย ส่วนที่เชียงใหม่มีผู้ป่วยด้วยโรคเอดส์กว่า 15,000 ราย วางแผนขยายการดูแลด้านสังคมแก่ผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อควบคู่ไปกับการป้องกันและรักษาพยาบาล ตั้งเป้าครอบคลุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ในปี 2553 เน้นดำเนินงานตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ บ้านหนองมะจับ จ.เชียงใหม่ เป็นต้นแบบ
นายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ในปี 2549 คาดว่าไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อเอดส์สะสมประมาณ 1,088,692 ราย ในจำนวนนี้ยังมีชีวิตอยู่และต้องการรักษาพยาบาลประมาณ 556,848 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15,174 ราย ส่วนผู้ป่วยโรคเอดส์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2527 ถึง 31 ธันวาคม 2549 ได้รับรายงานทั้งหมด 307,114 ราย เสียชีวิตแล้ว 85,459 ราย ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน อายุระหว่าง 20-39 ปี ส่งผลให้ประเทศต้องสูญเสียทรัพยากรบุคคล และต้องใช้งบประมาณเพื่อการดูแลรักษา ในปี 2550 กว่า 3,000 ล้านบาท นอกจากนี้ โรคเอดส์ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้วัณโรคกลับมาแพร่ระบาดใหม่ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะดื้อยา และยังส่งผลกระทบไปถึงครอบครัวผู้ป่วย/ผู้ติดเชื้อด้วย โดยเฉพาะเด็กกำพร้าที่พ่อแม่เสียชีวิตจากโรคเอดส์
นายแพทย์ธวัช กล่าวต่อว่า ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ กระทรวงสาธารณสุขจะมีเป้าหมายที่จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในทุกกลุ่มเสี่ยงให้ได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของคาดว่าจะเกิดภายในปี 2553 หรือไม่เกิน 5,300 ราย ส่วนด้านการรักษา จะขยายบริการตรวจวินิจฉัยระดับภูมิคุ้มกันในผู้ติดเชื้อที่ยังไม่มีอาการทุก 6 เดือน เพื่อให้ได้รับยาต้านไวรัสเร็วขึ้นหากระดับเม็ดเลือดขาวต่ำลง ติดตามผลการรักษาในผู้ป่วยที่ใช้ยาพื้นฐานแล้วไม่ดีขึ้น รวมทั้งพัฒนาการรักษาด้วยยาสูตรดื้อยา นอกจากนี้ จะขยายการบริการด้านการดูแลทางสังคม แก่ผู้ป่วยและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์ ให้ครอบคลุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ภายในปี 2553 ซึ่งในการดำเนินงานทั้งหมดนี้ จะเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน การใช้ทรัพยากรและภูมิปัญญาที่มีอยู่ท้องถิ่น ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้มีผู้ป่วยเอดส์ที่ยังมีชีวิตอยู่ 15,776 ราย ได้มีการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในงานสาธารณสุข ซึ่งที่บ้านหนองมะจับ ต.แม่แฝก อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ประสบความสำเร็จเห็นเป็นรูปธรรม โดยมีการจัดตั้ง กลุ่มแสงทองส่องทาง ขึ้นมาดูแลผู้ติดเชื้อ/ผู้ป่วย เด็กและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์ ช่วยให้มีกำลังใจในการต่อสู้ชีวิต มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อตนเองและชุมชน ภายใต้การสนับสนุนจากหน่วยงานสาธารณสุข องค์กรเอกชน องค์การบริหารส่วนตำบล วัด โรงเรียน และชาวบ้าน ทำให้ผู้ป่วยได้รับการยอมรับมากขึ้น และอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างมีความสุข
ด้านนายเศรษฐศักดิ์ ตันตะละ ประธานกลุ่มแสงทองส่องทาง กล่าวว่า กลุ่มแสงทองส่องทาง เริ่มก่อตั้งในปี 2539 ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 43 คน นอกจากการดูแลเพื่อนสมาชิกแล้ว ยังดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์ในหมู่บ้านรวม 164 คน เป็นเด็ก 71 คน ผู้ใหญ่ 93 คน โดยเปิดบริการให้คำปรึกษาทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาให้ความรู้ด้านสุขภาพเป็นประจำทุกเดือน สำหรับสมาชิกที่ป่วยจนไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมได้ จะออกไปเยี่ยมถึงบ้าน ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบ ได้จัดความช่วยเหลือต่างๆ อาทิ ทุนอาหารกลางวันอุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน นมผงสำหรับเด็กเล็ก เป็นต้น โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐและมูลนิธิเอกชน
นอกจากนี้ สมาชิกยังได้ร่วมกันทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ออกจำหน่าย ได้แก่ ดอกไม้จันทน์ ดอกไม้กระดาษสา การบูรหอม กระเป๋า หมอน พวงกุญแจ ผางประทีปลอยกระทง เพื่อรวบรวมเงินไว้สมทบทุนในการช่วยเหลือสมาชิกและครอบครัวด้วย และในอนาคตมีแผนจะให้สมาชิกปลูกสมุนไพรที่บ้าน เช่น มะระขี้นก บอระเพ็ด ขี้เหล็ก สะเลียม เป็นต้น เพื่อใช้เป็นยาสมุนไพรช่วยให้รับประทานอาหารได้มากขึ้น และลดอาการทางผิวหนัง
ทั้งนี้ ในปี 2550 บ้านหนองมะจับ ได้รับพระราชทานโล่รางวัลหมู่บ้านอยู่เย็นเป็นสุขบ้านเศรษฐกิจพอเพียง จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มีบุคคลต้นแบบในด้านต่างๆ ถึง 13 คน อาทิ พระต้นแบบด้านสร้างสุขภาพ ครูต้นแบบด้านโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ต้นแบบอาสาสมัครด้านสาธารณสุข ต้นแบบผู้ป่วยเบาหวาน-ความดันสูง ต้นแบบสถานีอนามัยปลอดเหล้า หมู่บ้านต้นแบบปลอดไข้เลือดออก เป็นต้น
มกราคม7/1-2 ************************************* 26 มกราคม 2550
View 12
26/01/2550
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ