กระทรวงสาธารณสุข แจกหน้ากากอนามัย 50,000 ชิ้น เจลล้างมือจำนวน 100,000 หลอด ให้พี่น้องไทยมุสลิมกว่า 16,000 คน เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ระหว่างแสวงบุญที่เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ปลายปี 2552-มกราคม 2553 และจัดระบบติดตามสุขภาพหลังกลับสู่ไทยต่อเนื่อง 15 วัน พร้อมให้อสม.และหน่วยพยาบาลไทยดูแลสุขภาพเต็มที่ โดยสำรองยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ 5,000 เม็ด
เช้าวันนี้(16 กรกฎาคม 2552)ที่โรงแรมเจบี หาดใหญ่ จ.สงขลา นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายสุรเชษฐ์ แวอาแซ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการเพื่อสุขภาพ นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และคณะ เปิดอบรมความรู้ให้แซะห์หรืผู้นำกลุ่ม ให้เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขฮัจย์(อสม.ฮัจย์)ประจำปี 2552 จำนวน 200 คน เพื่อให้คำปรึกษา แนะนำการดูแลสุขภาพชาวไทยมุสลิมที่จะเดินทางไปแสวงบุญฯ ที่เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ในช่วงปลายปี 2552 ถึงเดือนมกราคม 2553 ทำงานร่วมกับหน่วยแพทย์พยาบาลไทย เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยและเสียชีวิต โดยมอบกระเป๋ายาพร้อมเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้อสม.ด้วย
นายวิทยา กล่าวว่า ทุกปีจะมีชาวมุสลิมจากทั่วโลกรวมทั้งพี่น้องชาวไทยมุสลิม เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ที่ เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบียกว่า 3 ล้านคน และในปี 2552 นี้ ได้มีผู้แจ้งความประสงค์จะไปประกอบพิธีฮัจย์แล้วกว่า 16,000 คน การที่ผู้คนจำนวนมากไปอยู่รวมกันในสถานที่จำกัด เป็นเวลานานถึง 2-6 สัปดาห์ อาจทำให้มีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ ที่สำคัญคือโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลซึ่งพบมากเป็นอันดับ 1 ทุกปี และโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้วางแผนดูแลสุขภาพพี่น้องไทยมุสลิม ที่จะเดินทางไปแสวงบุญ โดยฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลให้ทุกคนฟรีก่อนเดินทาง เพื่อป้องกันไม่ให้ป่วยหรือหากป่วยอาการก็จะไม่รุนแรง ส่วนไข้หวัดใหญ่2009 ได้สั่งการให้สำนักงานควบคุมป้องกันโรคเขต 12 จังหวัดสงขลา แจกคู่มือประชาชนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่2009 ให้คนละ 1 เล่ม แจกเจลล้างมือ 100,000 หลอด พร้อมหน้ากากอนามัยชนิดกระดาษให้อย่างน้อยคนละ 3 ชิ้น และสนับสนุนให้พี่น้องไทยมุสลิมจัดเตรียมหน้ากากอนามัยชนิดผ้าอย่างน้อย 7 ชิ้น ซึ่งหลังใช้แล้วสามารถนำมาซักและใช้ซ้ำอีกได้ เนื่องจากต้องอยู่นานหลายสัปดาห์ โดยมอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด จัดระบบติดตามเฝ้าระวังสุขภาพภายหลังพี่น้องไทยมุสลิมเดินทางกลับไทย เป็นเวลา 15 วัน
ด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขไทยได้จัดส่งหน่วยแพทย์พยาบาลไทยจำนวน 2 ทีม ไปให้การดูแลสุขภาพพี่น้องไทยมุลสิมฟรีตลอดพิธีแสวงบุญ โดยได้สำรองยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์อย่างต่ำ 5,000 เม็ดไปด้วย และสามารถจัดส่งได้อีกตามความจำเป็นโดยผู้แสวงบุญหากมีโรคประจำตัว และมีอาการของไข้หวัด ต้องรีบแจ้งผู้ดูแลกลุ่มหรือแซะห์ทันที เพื่อประสานการรักษากับหน่วยพยาบาลไทยไปพบแพทย์ทันที โดยขอให้ปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดด้วย และในระหว่างที่ประกอบพิธีฮัจย์ขอให้ระมัดระวัง รักษาสุขภาพให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้มีอาการไข้หวัด หมั่นล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก หรือเมื่อต้องอยู่ในสถานที่แออัด
************************************** 16 สิงหาคม 2552
View 15
16/08/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ