รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กำชับโรงพยาบาลในสังกัดกว่า 800 แห่ง ให้พร้อมรับมือผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในวันเปิดทำการหลังหยุดยาว 5 วัน คาดจำนวนจะเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว ขอให้เจ้าหน้าที่ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ ไม่ต้องคำนึงเรื่องงบประมาณ เผยวันนี้ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบยืนยันติดเชื้ออีก 156 ราย ร้อยละ 82 เป็นนักเรียน เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวมเป็น 9 ราย ขณะนี้ยังนอนรักษาในโรงพยาบาล 38 ราย พร้อมวอนสื่ออย่าเรียกไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ว่าหวัดมรณะ ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะโรคนี้ไม่ได้ทำให้เสียชีวิตทุกราย นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอเอช 1 เอ็น 1 ว่า ในวันนี้ได้รับรายงานมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย ในกทม.และจ.เพชรบุรี รวมแล้วขณะนี้ไทยมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย ซึ่งมาตรการขณะนี้ การควบคุมป้องกันการแพร่กระจายเชื้อทำได้ค่อนข้างยาก เพราะเชื้อนี้มีแหล่งแพร่ในคนซึ่งมีการเดินทาง มีกิจกรรมตลอดเวลา กระทรวงสาธารณสุขได้มุ่งเน้นที่การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ซึ่งรวมทั้งไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯด้วย ให้ได้รับความปลอดภัยมากที่สุด และลดการสูญเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด ได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศทุกระดับ เปิดจุดตรวจรักษาผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด แยกจากจุดบริการผู้ป่วยทั่วไป เป็นแบบเบ็ดเสร็จที่จุดเดียว เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยโรคนี้แพร่เชื้อสู่คนอื่น และป้องกันไม่ให้ติดเชื้อจากผู้ป่วยอื่นๆด้วย นายมานิตกล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมความพร้อมของโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลจังหวัดในช่วง 2 วันนี้ ไม่น่าห่วง ทุกแห่งสามารถจัดจุดตรวจเบ็ดเสร็จที่จุดเดียวได้ มีอัตรากำลังทั้งแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่เพียงพอ “ได้เน้นย้ำขอความร่วมมือให้แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกคน ทุ่มเทสรรพกำลังทำงานดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ ไม่ต้องห่วงค่ารักษาหรือเรื่องงบประมาณไม่พอ ผมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ความมั่นใจกับประชาชน คาดว่าเมื่อเปิดทำการในวันพฤหัสบดี และวันศุกร์นี้ จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดจะทยอยเข้าตรวจรักษาที่โรงพยาบาลมากกว่าวันหยุดประมาณ 2-3 เท่าตัว ที่เป็นห่วงขณะนี้คือโรงพยาบาลชุมชน เนื่องจากมีแพทย์น้อย บางที่มีแพทย์ 2 คน อาจไม่เพียงพอ ได้มอบหมายให้นายแพทย์สมชัย นิจพานิช รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ศึกษารูปแบบที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นการด่วนแล้ว เพื่อนำมาแก้ไขปรับปรุงบริการให้ราบรื่นที่สุด” นายมานิตกล่าว ทั้งนี้ สำหรับการป้องกันโรค ขณะนี้พบการแพร่ระบาดในโรงเรียนเป็นส่วนใหญ่ แต่จุดที่ยังไม่เกิดการระบาดและเป็นแหล่งคนมากคือตามโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเข้าไปดำเนินการเฝ้าระวังและรณรงค์ประชาสัมพันธ์การป้องกัน และประสานขอความร่วมมืออธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม สำรวจจุดลักษณะงานที่อาจเสี่ยงแพร่โรคนี้ เพื่อร่วมมือกันป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่ สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯวันนี้ (7 กรกฎาคม 2552) ได้รับรายงานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบยืนยันติดเชื้ออีก 156 ราย เป็นนักเรียน 128 ราย หรือร้อยละ 82 ที่เหลือ 28 รายติดเชื้อในพื้นที่ รวมแล้วมีผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 2,428 ราย อาการหายดีแล้ว 2,381 ราย เสียชีวิต 9 ราย วันนี้ทั่วประเทศมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นอนรักษาในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน 38 ราย อย่างไรก็ดีอยากขอความร่วมมือสื่อมวลชนอย่าเรียกไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ว่าหวัดมรณะ ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะโรคนี้ไม่ได้ทำให้เสียชีวิตทุกราย สำหรับผู้เสียชีวิต 2 รายล่าสุด รายแรกเป็นชาย อายุ 58 ปี อยู่ในกทม. เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2552 โดยมีอาการไข้ ไอ อ่อนเพลีย มีน้ำมูก รายนี้มีประวัติไตวาย โรคความดันโลหิตสูง และโรคเก้าท์ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถีเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 แพทย์รับตัวไว้สังเกตอาการที่ห้องฉุกเฉิน วินิจฉัยเบื้องต้นว่า ปอดอักเสบ ต่อมาวันที่ 2 ก.ค. ผู้ป่วยหายใจดีขึ้น แพทย์จึงอนุญาตให้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน ต่อมาผู้ป่วยกลับมาพบแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินในวันที่ 5 กรกฎาคม 2552 ด้วยอาการหายใจหอบ กระสับกระส่ายมาก แพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจ ต่อมาเสียชีวิตที่ห้องฉุกเฉินในวันเดียวกัน และได้เก็บตัวอย่างเสมหะในลำคอส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลการตรวจในวันที่ 6 กรกฎาคม 2552 ยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็วร่วมกับกทม.ควบคุมโรคที่บ้านของผู้เสียชีวิต ผู้เสียชีวิตรายที่ 2 เป็นเด็กหญิง อายุ 8 ขวบ เป็นนักเรียนชั้นป.1 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี แต่ไม่ได้ไปโรงเรียน 3 ปี มีประวัติเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และได้รับการรักษาเคมีบำบัดในโรงพยาบาลในกทม.เป็นประจำ ต่อมาเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2552 เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า เพชรบุรี ด้วยอาการไข้ ไอ หายใจหอบเหนื่อย มีน้ำมูก หลังรักษา 2 วันแรกอาการดีขึ้น ต่อมาอาการทรุดลง แพทย์ได้ทำการรักษาตามอาการอย่างเต็มที่ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการในวันที่ 5 กรกฏาคม 2552 ยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ผู้เสียชีวิตรายนี้จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรีได้ส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วไปควบคุมโรคที่บ้าน ทำการเฝ้าระวังผู้สัมผัสโรคร่วมบ้านจำนวน 4 คน ติดตามอาการเป็นเวลา 7 วัน จนถึงวันนี้ทุกคนยังไม่มีใครป่วย ***************** 7 กรกฎาคม 2552


   
   


View 12    07/07/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ