รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ฝาก อสม.ภูเก็ต ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือโรคชิคุนกุนยา กระตุ้นประชาชนทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ทั้งในบ้านในสวน โรงแรม รีสอร์ทต่างๆ อย่างต่อเนื่อง หลังพบภูเก็ตติดอันดับ 7 ของประเทศ มีผู้ป่วยกว่า 500 ราย และเข้มข้นการเฝ้าระวังไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่ วันนี้ (11 มิถุนายน 2552) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดอาคารศูนย์บริการสาธารณสุข เทศบาลตำบลวิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งกองทุนสุขภาพชุมชนตำบลวิชิต เทศบาลตำบลวิชิต สถานีอนามัยบ้านแหลมชั่น และประชาชนในตำบลวิชิต ร่วมกันพัฒนาคุณภาพบริการสาธารณสุข เพื่อให้มีสถานบริการสาธารณสุขที่สะดวกสบายอยู่ใกล้บ้าน ประชาชนในพื้นที่เข้าถึงบริการรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ โดยมีแพทย์ พยาบาลประจำการ ให้การตรวจรักษาโรคทั่วไป และดูแลโรคเรื้อรัง ไม่ต้องไปรับบริการที่โรงพยาบาลวิชระภูเก็ต พร้อมทั้งมอบนโยบายแก่อาสาสมัครสาธารณสุขังหวัดภูเก็ต กว่า 500 คน นายวิทยากล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีชายหาดสวยงาม มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยวปีละหลายล้านคน ได้มอบนโยบายให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งพัฒนาคุณภาพบริการให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้บริการรักษา ดูแลส่งเสริมสุขภาพประชาชนในพื้นที่ และรองรับชาวต่างชาติที่เจ็บป่วย ให้ได้รับการรักษาที่มีคุณภาพมาตรฐาน สถานการณ์ขณะนี้ ภาคใต้ของประเทศไทยมีการระบาดใหญ่ของโรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือโรคชิคุนกุนยา และมีแนวโน้มสูงขึ้นในภาคใต้ตอนบน โดยตั้งแต่ 1 มกราคม–2 มิถุนายน 2552 พบผู้ป่วยใน 36 จังหวัดทั่วประเทศ รวม 24,029 ราย โดยที่จังหวัดภูเก็ตพบผู้ป่วย 534 ราย สูงเป็นอันดับที่ 7 ได้เน้นย้ำให้ อสม. ภูเก็ตซึ่งมีจำนวน 1,574 คน กระตุ้นเตือนประชาชนหลังคาเรือนที่รับผิดชอบ ป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด และให้ช่วยกันดูแลกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย กำจัดยุงตัวแก่ ทั้งในบ้าน บริเวณรอบบ้าน รวมทั้งโรงแรม ที่พัก รีสอร์ทต่าง ๆ เพื่อตัดตอนไม่ให้ลูกน้ำกลายเป็นตัวยุง ซึ่งจัดเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในพื้นที่ นายวิทยากล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่ได้รับความนิยมในระดับโลก ในแต่ละวัน มีผู้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก มีสนามบินนานาชาติ ซึ่งมีเที่ยวบินทั้งภายในประเทศ และเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศ หลายสายการบิน หลายเที่ยวบินต่อวัน จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะมีนักท่องเที่ยวติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 และเกิดการแพร่ระบาดในพื้นที่ได้ ซึ่งที่ผ่านมา อสม.หลายตำบลของภูเก็ตที่อยู่บริเวณใกล้กับสนามบิน ก็ได้หมุนเวียนกันมาปฏิบัติงานช่วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจคัดกรองผู้โดยสารมาโดยตลอด ซึ่งเป็นมาตรการสกัดกั้นโรคด่านแรก ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำ อสม. ให้ช่วยเป็นหูเป็นตา เข้มข้นการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ หากพบผู้มีอาการไม่สบาย มีไข้ และมีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ หรือสัมผัสใกล้ชิดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ป่วย ขอให้แนะนำให้ไปรักษากับแพทย์โดยเร็ว ********************************* 11 มิถุนายน 2552


   
   


View 15    11/06/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ