สธ. หนุนโรงเรียนทั่วไทย ส่งเสริมเด็กไทยกินผัก เพิ่มพลังสุขภาพ

สาธารณสุข จับมือกับภาคเอกชน จัดโครงการ “มหัศจรรย์พลังผักและผลไม้” รณรงค์ส่งเสริมเด็กไทยกินผักผลไม้มากขึ้น นำร่อง 50 โรงเรียนในกทม.และปริมณฑล ชี้ผลดำเนินการ 1 ปีประสบผลสำเร็จ เด็กไทยมีนิสัยรักการกินผักเพิ่มขึ้นร้อยละ 72 ชี้ผลวิจัยล่าสุดพบเด็กไทยเจ้าเนื้อ กินผักเพียงวันละ 1 ช้อนครึ่งเท่านั้น ส่งผลให้การเจริญเติบโตสะดุด โดยเฉพาะสมอง เพราะขาดวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ โรงเรียนใดสนใจทำโครงการนี้ติดต่อที่กรมอนามัย นายสง่า ดามาพงษ์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ผลการสำรวจภาวะอาหารและโภชนาการของประชาชนในกรุงเทพมหานคร โดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ล่าสุดในปี 2548 พบเด็กวัยเรียนกินผักเพียง วันละ 1ช้อนครึ่ง ซึ่งน้อยกว่าที่กรมอนามัยแนะนำไว้ในธงโภชนาการให้กินวันละ 12 ช้อน การกินผักผลไม้น้อยอาจเกิดภาวะเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารพวกวิตามิน แร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะวิตามินซี วิตามินเอ แร่ธาตุ แคลเซี่ยม และธาตุเหล็กที่ได้จากผักใบเขียว ซึ่งมีส่วนสำคัญทำให้การเจริญเติบโตและพัฒนาการด้านร่างกาย และสติปัญญาต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะเป็น โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อไปว่า ในการแกไขและป้องกันปัญหาสุขภาพระยะยาว ในพ.ศ.2549-2550นี้ กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย ได้ร่วมกับโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพทั่วประเทศ 228 แห่ง จัดโครงการ“กินผักทุกวัน เด็กไทยทำได้” รณรงค์ให้เด็กกินผักผลไม้มากขึ้น และร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รณรงค์ “กินเป็นเน้นผักผลไม้ระวังภัยหวาน มัน เค็ม” ในโรงเรียนเครือข่ายต้นแบบ 15 แห่ง ใน 4 ภาค จะประเมินผล 2 โครงการดังกล่าวในปีหน้านี้ และโครงการล่าสุด ได้จับมือกับบริษัท ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร โรซ่า รณรงค์ “มหัศจรรย์พลังผักผลไม้” นำร่องในโรงเรียน 50 แห่ง ทั้งในกทม.และปริมณฑล โดยได้จัดกิจกรรมรณรงค์กินผักเน้นการมีส่วนร่วมทั้งครู ผู้ปกครอง และนักเรียน โดยเฉพาะการจัดเมนูจานผักอาหารกลางวัน และผนวกเข้าในหลักสูตรสาระการเรียนรู้ทุกวิชา จากการประเมินผลโครงการดังกล่าวหลังดำเนินการเป็นเวลา 1 ปี พบว่าประสบผลสำเร็จ เด็กร้อยละ 72 เริ่มมีนิสัยรักการกินผักมากขึ้น และผู้ปกครองร้อยละ 95 ระบุว่าโครงการกินผักมีประโยชน์มาก โฆษกกระทรวงสาธารณสุขกล่าวต่อไปว่า ผลเสียของการกินผักผลไม้น้อย ทำให้ร่างกายขาดโอกาสที่จะได้รับสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่มีในอาหารประเภทนี้ จึงนำไปสู่การเพิ่มภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง และโรคหัวใจและหลอดเลือดในวัยผู้ใหญ่ ในขณะเดียวกันเด็กไทยยังเพิ่มการกินอาหารประเภทน้ำตาล ไขมันมากขึ้น ผลสำรวจล่าสุดพบว่าปัจจุบันคนไทยกินน้ำตาลเฉลี่ยวันละ 20 ช้อนชา ทั้งๆที่กำหนดให้กินไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา พฤติกรรมดังกล่าวนำไปสู่ปัญหาโรคอ้วนและฟันผุในเด็กซึ่งนับวันแต่จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ “การส่งเสริมให้เด็กกินผัก ต้องเริ่มที่ครอบครัว โดยมี พ่อ-แม่ เป็นต้นแบบอย่างที่ดี หมั่นใส่ใจให้ความรู้เรื่องผักแก่ลูก และที่สำคัญต้องจัดเมนูผัก ผลไม้ให้ลูกกินทุกมื้อ สำหรับรณรงค์ให้กินผักในโรงเรียนนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปรับพฤติกรรมกินผักของเด็กได้ กระทรวงสาธารณสุขจึงขอเชิญชวนทุกโรงเรียนพร้อมใจกันรณรงค์อย่างจริงจัง โดยกรมอนามัยยินดีให้การสนับสนุนด้านวิชาการ โดยสามารถติดต่อที่กองโภชนาการ กรมอนามัย หมายเลขโทรศัพท์ 02-590-4307และ 02-590-4308 ” นายสง่ากล่าวในที่สุด ********************************* 15 ธันวาคม 2549