สธ. หนุนธุรกิจร้านอาหารไทยคุณภาพระดับอินเตอร์ พยุงฐานะเศรษฐกิจประเทศ

กระทรวงสาธารณสุข สนับสนุนสมาคมภัตตาคาร ชมรมร้านอาหารไทย ยกระดับคุณภาพร้านอาหารไทย ให้ได้มาตรฐานสากล พยุงฐานะเศรษฐกิจประเทศ โกยรายได้ปีละ 1 แสนล้านบาท โดยสมาคมภัตตาคารไทย ตั้งเป้าปี 2552 จะพัฒนาร้านอาหารไทยให้ได้มาตรฐานระดับอินเตอร์ 150 แห่ง บ่ายวันนี้ (3 ธันวาคม 2551) ที่โรงแรมรามาการ์เด้นท์ กทม. นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนางปวรวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ร่วมแถลงข่าว “โครงการพัฒนายกระดับร้านอาหารไทยสู่มาตรฐานสากล” จัดโดยสมาคมภัตตาคารไทยและชมรมร้านอาหารไทย เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการร้านอาหารและภัตตาคารไทย พัฒนาและยกระดับคุณภาพร้านให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทางธุรกิจในขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังสั่นคลอน นายวิชาญ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยของอาหาร โดยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการผลิตอาหารที่สะอาดปลอดภัย ปราศจากเชื้อโรคหรือสารเคมีอันตรายตกค้างปนเปื้อน ตั้งแต่แหล่งผลิต จำหน่าย แปรรูป แหล่งปรุงพร้อมบริโภค เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพดี โดยขณะนี้อาหารไทยจัดว่ามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนานาชาติ เนื่องจากมีเครื่องเทศสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นส่วนประกอบจำนวนมาก และไทยยังเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของโลก โดยธุรกิจร้านอาหารไทยมีมูลค่าการตลาดภายในประเทศมากถึงปีละ 1 แสนล้านบาท นายวิชาญ กล่าวต่อว่า โครงการพัฒนายกระดับร้านอาหารไทยสู่มาตรฐานสากล ที่สมาคมภัตตาคารไทยและชมรมร้านอาหารไทยร่วมกันดำเนินการครั้งนี้ เป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อสุขภาพและระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นอันมาก มั่นใจว่าธุรกิจร้านอาหารจะช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างดี ในสภาวะที่สินค้าส่งออกอื่นของไทยกำลังมีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตามขอให้คำนึงถึงประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ การทำให้คนไทยได้กินอาหารที่ปลอดภัย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขพร้อมให้การสนับสนุนด้านวิชาการอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ พบว่าสาเหตุการปนเปื้อนของอาหารปรุงสำเร็จนั้น ร้อยละ 60 มาจากผู้ปรุงและผู้ที่สัมผัสอาหาร จากมือที่ไม่สะอาด เก็บอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ อีกร้อยละ 40 เกิดจากสุขาภิบาล เช่น น้ำใช้ไม่สะอาด หรือล้างไม่สะอาด การกำจัดน้ำเสียและขยะไม่ถูกต้อง สำหรับผลการพัฒนาสถานที่จำหน่ายอาหารในปี 2551 มีตลาดสดผ่านเกณฑ์มาตรฐานความสะอาด ได้รับป้ายตลาดสดน่าซื้อระดับดีและดีมาก 1,108 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 72 ของตลาดที่มีโครงสร้างถาวรทั่วประเทศซึ่งมี 1,547 แห่ง มีร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหาร ผ่านเกณฑ์ร้านสะอาด รสชาติอร่อย 122,008 ร้าน จากทั้งหมด 168,025 ร้านคิดเป็นร้อยละ 73 ในปี 2552 ตั้งเป้าจะให้ตลาดสดและร้านอาหารผ่านเกณฑ์มาตรฐานกรมอนามัย ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75 และขยายผลไปยังโรงอาหาร โรงครัว ร้านอาหารและแผงลอยในหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ จะต้องผ่านเกณฑ์อาหารสะอาดรสชาติอร่อย 100 เปอร์เซ็นต์ ทางด้านนางปวรวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า ตามโครงการพัฒนายกระดับร้านอาหารไทยสู่มาตรฐานสากลนี้ ผู้ประกอบการร้านอาหารและบุคลากรในร้านที่เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องผ่านการอบรมและตรวจสอบมาตรฐาน ด้านการปรุงอาหารที่ถูกสุขลักษณะ การจัดการสถานที่และการบริการ จากบริษัทอินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิส ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญการตรวจสอบด้านอาหารที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยในปี 2551 - 2552 ตั้งเป้านำร่องรับสมัครร้านอาหารเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 150 ร้าน ************************** 3 ธันวาคม 2551