กระทรวงสาธารณสุข ประกาศผู้สูงอายุเป็นวาระแห่งชาติ รับมือการเข้าสู่สังคมประชากรสูงวัยตั้งแต่พ.ศ. 2554 เป็นต้นไป เสนองบลงทุน โครงการเมกะโปรเจค 9,199 ล้านบาท พัฒนาสุขภาพผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2552-2555 อาทิ จัดตั้งศูนย์การแพทย์ผู้สูงอายุครบวงจรในโรงพยาบาลศูนย์ 25 แห่ง พัฒนาหน่วยบริการผู้สูงอายุในระดับชุมชน บ่ายวันนี้ (3 พฤศจิกายน 2551) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมคณะกรรมการอำนวยการงานผู้สูงอายุ ของกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วย นายแพทย์จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีทุกกรม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หัวหน้าสำนักตรวจราชการ ผู้แทนจากหน่วยงานเกี่ยวข้องได้แก่ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ เพื่อกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาสุขภาพและระบบการดูแลผู้สูงอายุไทย ซึ่งไทยกำลังจะเข้าสู่การเป็นสังคมของผู้สูงอายุตั้งแต่พ.ศ. 2554 เป็นต้นไป โดยจะมีสัดส่วนของผู้สูงอายุร้อยละ 11 ของจำนวนประชากรทั้งหมด อายุเฉลี่ยผู้ชายไทย 69.5 ปี ผู้หญิง 76.3 ปี ขณะนี้ไทยมีผู้สูงอายุร้อยละ 10 หรือประมาณ 7 ล้านคน เป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานต้องร่วมกันจัดระบบการดูแลให้เหมาะสม นายวิชาญ กล่าวว่า ผลการสำรวจสุขภาพผู้สูงอายุล่าสุด น่าห่วงมาก เนื่องจากร้อยละ 80 เป็นโรคเรื้อรัง มีโรคประจำตัว อีกร้อยละ 25 อยู่ในภาวะทุพพลภาพ พิการ ต้องพึ่งพิงคนดูแล ขณะนี้เตียงในโรงพยาบาลทุกระดับ ร้อยละ 28 รองรับผู้สูงอายุเจ็บป่วย สัดส่วนของจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้วัยแรงงานต้องรับภาระดูแลเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันสังคมจะต้องเตรียมพร้อมการดูแลให้ครอบคลุมเป็นระบบทั้งที่บ้านในชุมชน และสถานบริการเช่น แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข นักกายภาพบำบัด และนักจิตวิทยา นายวิชาญ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลมีนโยบายที่จะให้มีการจัดบริการและสวัสดิการต่างๆให้ผู้สูงอายุ โดยจัดทำแผนผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ 2 ต่อเนื่อง 20 ปีตั้งแต่พ.ศ.2545ถึงพ.ศ.2564 และแผนยุทธศาสตร์บูรณาการการจัดบริการผู้สูงอายุ ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน จนถึงระดับเฉพาะทาง พ.ศ. 2552-2555 โดยกระทรวงสาธารณสุชขจะผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ และเสนอโครงการลงทุนภาครัฐด้านสาธารณสุขหรือเมกะโปรเจค (Mega Project) ใช้งบประมาณทั้งสิ้นรวม 9,199 ล้านบาท มีโครงการย่อยอยู่ 8 โครงการ ในแต่ละโครงการอาศัยความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติจะประชุมในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ หากคณะกรรมการมีมติเห็นชอบ จัดทำเรื่องผู้สูงอายุเป็นวาระแห่งชาติ จะผลักดันเข้า ครม.เพื่อพิจารณาต่อไป ทางด้านนายแพทย์จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โครงการเมกะโปรเจค 8 โครงการ ประกอบด้วย 1. จัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ 2.จัดตั้งศูนย์การแพทย์ด้านผู้สูงอายุครบวงจรในโรงพยาบาลศูนย์ครบ 25 แห่ง พ.ศ. 2552-2555 3.จัดตั้งคลินิกผู้สูงอายุในโรงพยาบาลทั่วไป 69 แห่ง 4.ตั้งสถานบริบาลผู้สูงอายุระยะยาว 5.พัฒนาหน่วยบริการระดับพื้นฐานในชุมชน เพื่อดูแลฟื้นฟูผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง 6.พัฒนาบุคลากรที่จะให้บริการดูแลผู้สูงอายุ 7.ส่งเสริมพัฒนาระบบการจัดการช่วยเหลือผู้สูงอายุทั้งกรณีปกติและฉุกเฉิน และ8.จัดทำฐานข้อมูลผู้สูงอายุ ในแต่ละจังหวัด ให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน ***************************** 3 พฤศจิกายน 2551


   
   


View 17    03/11/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ