รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เร่งรัดกรมสุขภาพจิตดูแลสภาพจิตใจคนไทย หวั่นผู้ใหญ่เป็นโรคซึมเศร้าเพราะเครียดจากสภาพเศรษฐกิจ สังคมและความผันผวนทางการเมือง ขณะที่เด็กติดเกมส์คอมพิวเตอร์หนัก นำไปสู่การติดเหล้า บุหรี่ และยาเสพติด เตรียมทำการสำรวจภาวะซึมเศร้าของประชาชนทั่วประเทศ ส่วนกรมอนามัยให้เน้นสานต่อโครงการโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว และดูแลมาตรฐานส้วมสาธารณะทั่วไทย บ่ายวันนี้ (3 ตุลาคม 2551) ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมกรมสุขภาพจิตและกรมอนามัย เพื่อรับฟังภารกิจและมอบนโยบายการดำเนินงาน ว่า ภารกิจหลักของกรมสุขภาพจิตคือ การดูแลสุขภาพจิตของประชาชนทั่วประเทศ รวมทั้งศึกษา วิจัย พัฒนาความรู้ และเทคโนโลยีด้านสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้มีโครงการเร่งด่วน 6 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด 2.โครงการแก้ปัญหาความไม่สงบของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้จัดตั้งศูนย์เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจในโรงพยาบาลชุมชนแล้ว 37 แห่ง 3.โครงการพัฒนาสติปัญญาเด็กไทย 4.โครงการป้องกันและช่วยเหลือผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าและเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย 5.โครงการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ และ 6.โครงการรณรงค์ระดับชาติเพื่อคืนชีวิตใหม่และสร้างกำลังใจในผู้มีปัญหาสุขภาพจิต ร.ต.อ.ดร.เฉลิม กล่าวต่อว่า นอกจากโครงการดังกล่าวแล้ว ได้มอบนโยบายให้กรมสุขภาพจิตเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาสำคัญ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือปัญหาโรคซึมเศร้าของคนไทยซึ่ง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสภาพทางเศรษฐกิจ สังคม ความยากจน ที่ส่งผลให้เกิดความเครียด รวมทั้งความผันผวนทางการเมือง ที่ทำให้คนที่ฝักใฝ่ทางการเมืองมีความคิดเห็นไม่ตรงกันและเกิดความเครียดตามมา โดยต้องมีการทำสำรวจภาวะซึมเศร้าครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้งบประมาณค่อนข้างมาก จะช่วยผลักดันของบประมาณเพิ่มเติมจากสำนักงบประมาณต่อไป ส่วนเรื่องที่ 2 คือปัญหาเด็กติดเกมส์ เนื่องจากร้านเกมส์ขณะนี้เปิดให้บริการกันแพร่หลายมาก การควบคุมทำได้ไม่ทั่วถึง ส่วนใหญ่จึงเหมือนเป็นแหล่งมั่วสุม ทำให้มีโอกาสพัฒนาไปสู่การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ และอาจลุกลามไปถึงการติดยาเสพติดได้ ส่งผลเสียต่อเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ จึงต้องเร่งวางแนวทางเพื่อให้เด็กเข้าถึงเกมส์คอมพิวเตอร์อย่างเหมาะสม ทั้งการกำหนดอายุของผู้เล่น เวลาที่เล่นเกมส์ และที่สำคัญคือเนื้อหาของเกมส์ ที่ต้องไม่มีผลกระทบต่อจิตใจของเด็ก ร.ต.อ.ดร.เฉลิม กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของกรมอนามัย ได้เน้นให้ความสำคัญกับโครงการโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว ซึ่งเป็นแนวพระดำริของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ในการดูแลอนามัยแม่และเด็ก รวมทั้งส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน ให้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 นอกจากนี้ให้ดูแลด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนามาตรฐานส้วมสาธารณะ ได้ให้ทำการสำรวจส้วมตามปั๊มน้ำมันกว่า 15,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อหาแนวทางจูงใจให้เจ้าของปั๊มเห็นความสำคัญและให้ความร่วมมือในการพัฒนาส้วมให้ได้ตามมาตรฐานส้วมสาธารณะของกรมอนามัย ทั้งนี้ จะมีการประชุมผู้บริหารทุกระดับ ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค โดยเฉพาะผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน เพื่อร่วมกันระดมสมองค้นหาปัญหาและแนวทางแก้ไข รวมทั้งการพัฒนางานของกระทรวงสาธารณสุขให้ก้าวหน้า ในวันที่ 16 ตุลาคม 2551 นี้ ******************************* 3 ตุลาคม 2551


   
   


View 21    03/10/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ