วันนี้ (12 มกราคม 2566) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจว่าด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ กับ ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เพื่อการพัฒนางานวิจัยและการบริการด้านสาธารณสุขเชิงพื้นที่ ณ ห้องพระอินทร์ 2 ชั้น 2 โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ด้านโครงสร้างประชากร สังคม การเจ็บป่วย โรคอุบัติใหม่ รวมถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและวิถีชีวิตของประชาชน กรมอนามัยซึ่งมีภารกิจหลักในการส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพดี โดยการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย พัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการส่งเสริมสุขภาพ การจัดการปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ และการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี โดยต้องมีการพัฒนา ยกระดับการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมีความรู้และทักษะอย่างถูกต้องและเท่าทัน
“การเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งเป็นความท้าทายสำคัญในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก กรมอนามัยจึงเห็นความสำคัญของการมีข้อมูลที่ทันต่อสถานการณ์ และการบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ซึ่ง GISTDA เป็นหน่วยงานที่ผลิตข้อมูลภูมิสารสนเทศที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นประโยชน์สำหรับการศึกษาวิจัย คาดการณ์ เตรียมการและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจจะเกิดขึ้น การลงนามความร่วมมือในวันนี้ จึงถือเป็นโอกาสที่ดีต่อกรมอนามัยและหน่วยงานสาธารณสุขในระดับพื้นที่ เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการกำหนดนโยบาย การวางแผน และการตัดสินใจในการจัดการปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพในระดับพื้นที่ เช่น มลพิษทางอากาศ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยพิบัติ และรวมถึงปัจจัยเสี่ยงใหม่ๆ ในอนาคต อันนำไปสู่การคุ้มครองสุขภาพของประชาชนต่อไป” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ทางด้าน ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA) กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการขยายความร่วมมือ ในการบูรณาการเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการวิจัย พัฒนา และการบริการด้านสาธารณสุขเชิงพื้นที่ร่วมกัน อีกทั้ง GISTDA จะร่วมผลักดันพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานภายใต้ภารกิจของกรมอนามัยในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสาธารณสุข ข้อมูลภูมิสารสนเทศ ภายใต้โครงการ Open Geospatial Platform การพัฒนานวัตกรรมภูมิสารสนเทศต่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะเพื่อสุขภาวะที่ยั่งยืน และโครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการถ่ายทอดแลกเปลี่ยนนวัตกรรมและองค์ความรู้ และพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศและด้านสาธารณสุข รวมทั้งการผลักดันให้เกิดการนำผลงานวิจัยไปใช้งานจริง และสร้างระบบนิเวศในการวิจัยพร้อมนำไปสู่การสร้าง One Health One Service อย่างเป็นรูปธรรม
“นอกจากนี้ ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาด้านมลพิษทางอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ความร่วมมือนี้ จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของระบบสารสนเทศและเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ที่จะช่วยสนับสนุนการดำเนินงาน ทั้งการพัฒนางานวิจัย องค์ความรู้ การคาดการณ์ รวมถึงการ เตรียมการ และป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นและนำมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการมลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะของประชาชน เพื่อจัดทำระบบสนับสนุนการให้บริการสาธารณสุขแบบครบวงจร ช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพ เพื่อคุณภาพที่ดีของประชาชนต่อไป” ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าว