กระทรวงสาธารณสุขพร้อมฉีดวัคซีนโควิด 19 ล็อตแรกที่มีจำนวนจำกัดในกลุ่มเป้าหมายและพื้นที่เป้าหมาย 18 จังหวัด เตรียมพร้อมระบบรองรับแล้ว เบื้องต้นให้โรงพยาบาลนัดกลุ่มเสี่ยงมาฉีดวัคซีน จากนั้นใช้ระบบ "หมอพร้อม" ติดตามอาการและนัดหมายฉีดเข็มที่ 2

          วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2564) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าว การกระจายวัคซีนโควิด 19 และความพร้อมของสถานพยาบาลในการฉีดวัคซีน ว่า ขณะนี้วัคซีนของซิโนแวคอยู่ระหว่างการตรวจคุณภาพ (Lot Release) ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อนำมาฉีดให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วยโควิด 19 และประชาชนที่มีโรคประจำตัวที่ติดเชื้อแล้วเสี่ยงอาการรุนแรงและเสียชีวิตง่าย ในช่วงอายุ 18-59 ปี ในพื้นที่ที่คณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) กำหนด ได้แก่ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จำนวน 18 จังหวัด การขนส่งมีองค์การเภสัชกรรมร่วมกับบริษัท DKSH ดำเนินการด้วยระบบลูกโซ่ความเย็น ควบคุมอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถส่งวัคซีนไปถึงโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งทั่วประเทศภายใน 24 ชั่วโมง

          นายแพทย์ธงชัยกล่าวว่า เนื่องจากวัคซีนทยอยมาเป็นล็อต จึงไม่สามารถฉีดให้แก่กลุ่มเสี่ยงทั้งหมดคราวเดียวได้ การกำหนดว่าจะจัดสรรให้กลุ่มเสี่ยงใดและพื้นที่ใดก่อนขึ้นกับการพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยมีการจัดทำแผนการบริหารจัดการวัคซีนจังหวัด นำรายชื่อกลุ่มที่จะได้รับการฉีดวัคซีนเข้ามาในระบบ Line Official Account หมอพร้อม ซึ่งในกลุ่มจังหวัดที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนก่อนจะแสดงรายชื่อกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการฉีดวัคซีนภายใน 1-2 วันนี้ อย่างไรก็ตาม ระยะแรกโรงพยาบาลจะติดต่อกลุ่มเป้าหมายให้รับวัคซีนตามความสมัครใจก่อน จากนั้นจะประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเสี่ยงลงทะเบียนเลือกวัน เวลา สถานที่ฉีดผ่านไลน์หมอพร้อมต่อไป แต่หากตนเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับวัคซีน แต่ไม่มีรายชื่อให้ติดต่อโรงพยาบาลที่รักษาและขอลงทะเบียนเพิ่มเติม สำหรับประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าในไลน์หมอพร้อมได้ แต่จะยังไม่มีรายชื่อเป็นผู้ได้รับวัคซีน

          นายแพทย์ธงชัยกล่าวต่อว่า สำหรับวัคซีนของแอสตราเซนเนกา คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาให้ฉีดในผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปเป็นหลัก จึงเข้ามาเติมเต็มการฉีดวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายระยะแรก โดยออกแบบให้มีการฉีดคนละวันกับวัคซีนของซิโนแวค โดยวัคซีนของซิโนแวคจะฉีดวันจันทร์-ศุกร์ ส่วนของแอสตราเซนเนกาฉีดวันเสาร์และอาทิตย์ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นคนละกลุ่ม ทั้งนี้ สถานพยาบาลได้จัดสถานที่และระบบขั้นตอนการฉีดวัคซีน 8 ขั้นตอนตามที่กำหนดแล้ว โดยขอให้ผู้ที่มารับการฉีดวัคซีนใช้ไลน์หมอพร้อม ในการติดตามอาการหลังรับการฉีดวัคซีน ซึ่งจะมีระบบในการแจ้งเตือนในการมารับวัคซีนเข็มที่สอง โดยของซิโนแวคจะฉีดห่างกัน 21 วัน ส่วนของแอสตราเซนเนกาฉีดห่างกัน 10-12 สัปดาห์ สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจะมีการติดตามผ่าน อสม.และทางโทรศัพท์

          “การบริหารจัดการวัคซีนมีการวางระบบเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมด ตั้งแต่การขนส่งที่มีการติดตามวัดอุณหภูมิให้คงที่จนถึงตู้เย็นในโรงพยาบาล มีการทำข้อมูลว่าฉีดวัคซีนของอะไร ล็อตนัมเบอร์อะไร ทำให้ตรวจสอบได้ทั้งหมด” นายแพทย์ธงชัยกล่าว

 *************************** 25 กุมภาพันธ์ 2564

********************************************************************



   
   


View 3695    25/02/2564   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ