“สมศักดิ์” ยกระดับหมอนวดไทยเชี่ยวชาญพิเศษ 7 กลุ่มอาการ เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย หนุนเศรษฐกิจสุขภาพ
- สำนักสารนิเทศ
- 348 View
- อ่านต่อ
โรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก ศึกษาวิจัยการดูแลผู้ป่วยหนักมีไข้สูง ใช้ผ้าชุบน้ำธรรมดาผสมน้ำย่านางสกัดเย็นเช็ดตัวลดไข้ได้ผลดี ช่วยลดระยะเวลาของการเกิดไข้ซ้ำนานกว่าน้ำธรรมดา
ในงานประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุขประจำปี 2561 มีการนำเสนอผลงานวิจัยของโรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก เรื่อง “ผลการเช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำธรรมดาผสมน้ำย่านางสกัดเย็น” ของนางสุนีย์ วังซ้าย พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ประสบผลสำเร็จและสามารถลดไข้ได้ดี จากสถิติการเข้ารับการรักษาเดือนมีนาคม – พฤษภาคม 2560 พบว่ากลุ่มผู้ป่วยหนักที่มีภาวะติดเชื้อในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของการตายอันดับ 1 มักมีภาวะไข้สูง อุณหภูมิ 38 - 40 องศาเซลเซียส ภายหลังจากการเช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำธรรมดา เพื่อนำความร้อนออกทางรูขุมขนพบว่า ไข้ไม่ลด ผู้วิจัยจึงทำการศึกษาโดยการเช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำธรรมดาผสมน้ำย่านางสกัดเย็น เปรียบเทียบผู้ป่วย 2 กลุ่ม (กลุ่มที่ 1 เช็ดตัวด้วยน้ำธรรมดา และกลุ่มที่ 2 เช็ดตัวด้วยน้ำธรรมดาผสมน้ำย่านางสกัดเย็น) จำนวนกลุ่มละ 20 คน เป็นคนไข้ที่มีการติดเชื้อในร่างกายคล้ายกัน อายุเฉลี่ยและอุณหภูมิก่อนเช็ดตัวไม่แตกต่างกัน และทำการศึกษาระหว่างเดือนกันยายน – ธันวาคม 2560 ใช้วิธีการเช็ดตัวและแปะบริเวณข้อพับ เป็นเวลา 15 นาที ตามแผนการแพทย์วิถีไทยและวัดไข้ซ้ำภายหลังเช็ดตัวแล้ว ทุก 30 นาที
ผลการศึกษาวิจัยพบว่า การเช็ดตัวน้ำธรรมดาผสมน้ำย่านางสกัดเย็นมีผลต่อการลดไข้ได้ อุณหภูมิร่างกายลดลงแตกต่างกับการเช็ดตัวด้วยน้ำธรรมดาเฉลี่ย 1 องศาเซลเซียส ชี้ให้เห็นว่าการใช้น้ำธรรมดาผสมน้ำย่านางสกัดเย็นให้ผลในการลดอุณหภูมิร่างกายได้ดีกว่าการใช้น้ำธรรมดาอย่างเดียว ซึ่งผู้ป่วยมีอาการพึงพอใจ สามารถนำไปเผยแพร่ให้แก่ญาติๆ และประชาชนทั่วไปเพื่อประยุกต์ใช้กับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยหนักที่ไม่สามารถรับประทานยาเองได้
ทั้งนี้ น้ำย่านางสกัดเย็นเป็นพืชสมุนไพรมีฤทธิ์เย็น สรรพคุณสามารถดับพิษและลดไข้ได้ หาได้แทบทุกภาคในประเทศไทย วิธีการผสมน้ำย่านางสกัดเย็น คือ ใช้ผ้าชุบน้ำธรรมดาในสัดส่วน 2 ลิตร ผสมน้ำย่านางสกัดเย็นผสมใบเตย 120 ซี.ซี. แปะไว้บริเวณข้อพับ เช่น ขาหนีบ คอ เป็นต้น ทำพร้อมกับการเช็ดตัวผู้ป่วย เป็นเวลา 15 นาที ผู้ป่วยจะรู้สึกผ่อนคลายและสบายตัว อย่างไรก็ตามเป้าหมายในอนาคตจะมีการนำไปเผยแพร่สู่การดูแลผู้ป่วยที่ไม่มีการติดเชื้อและผู้ป่วยรายอื่นๆ ต่อไป
************************************* 26 สิงหาคม 2561