รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยไทยเป็นประเทศเดียวในโลก ที่มี อสม.แลสุขภาพคนในหมู่บ้าน ชุมชนต่อเนื่องยาวนาน 29 ปี ได้รับความไว้วางใจจากองค์การอนามัยโลก เป็น 1 ใน 3 ประเทศ จัดการโรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ หลอดเลือดสมอง และมะเร็ง ให้เป็นแบบอย่างทั่วโลก คาดโอกาสสำเร็จสูง เพราะงานสาธารณสุขมูลฐานที่เข้มแข็งและความร่วมมือจาก อสม. วันนี้ (1 พฤศจิกายน 2550) นายแพทย์วัลลภ ไทยเหนือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์อนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นายแพทย์ ชูวิทย์ ลิขิตยิ่งวรา หัวหน้าสำนักตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข มอบใบประกาศนียบัตรให้ อสม.ของจังหวัดสุรินทร์ที่ผ่านการอบรมพัฒนาศักยภาพ รุ่นที่ 2 จำนวน 6,942 คน ที่ค่ายวีรวัฒน์โยธิน อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ และในช่วงบ่ายได้เดินทางไปยังโรงเรียนพุทไธสง อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อมอบใบประกาศนียบัตร อสม. ของจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 7,713 คน นายแพทย์วัลลภกล่าวว่า วิถีชีวิตและการบริโภคอาหารของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงไปในขณะนี้ ทำให้เป็นสาเหตุการป่วยและเสียชีวิตจากโรคเรื้อรังต่างๆ มากขึ้น เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ หลอดเลือดสมอง และมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งโรคกลุ่มนี้เป็นสาเหตุการป่วยและการตายอันดับต้นๆ ในปัจจุบัน ผลการสำรวจสภาวะสุขภาพคนไทยปี 2548 พบคนไทยมีอัตราป่วยต่อประชากร 1 แสนคน ดังนี้ โรคความดันโลหิตสูง 544 คน โรคเบาหวาน 531 คน โรคหัวใจ 490 คน โรคหลอดเลือดสมอง 175 คน และโรคมะเร็ง 114 คน ซึ่งการเจ็บป่วยจากโรคเรื้อรังนี้ เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงที่สามารถป้องกันได้ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา สิ่งมึนเมา สารเสพติด สารเคมี รวมทั้งความเครียดและการขาดการออกกำลังกาย “ขณะนี้องค์การอนามัยโลก ได้หันมาให้ความสำคัญงานสาธารณสุขมูลฐาน ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพของชาวบ้านด้วยกันเองภายในชุมชน เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่เมื่อเจ็บป่วยจะปรึกษาผู้ใกล้ชิด ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน ก่อนที่จะไปพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งไทยโดดเด่นมากในเรื่องของงานสาธารณสุขมูลฐาน และมีโครงสร้างสถานบริการสาธารณสุขทุกระดับครอบคลุมทั่วประเทศ มีสถานีอนามัยครบทุกตำบล 9,700 แห่ง ที่สำคัญเรามี อสม.เป็นตัวแทนของกระทรวงสาธารณสุขดูแลให้คำปรึกษาด้านสุขภาพแก่ประชาชนครบทุกหมู่บ้านจำนวน 8 แสนกว่าคน ทั้ง 2 ส่วนนี้ทำงานเชื่อมต่อกันได้อย่างดีมาก” นายแพทย์วัลลภกล่าว นายแพทย์วัลลภ กล่าวต่อว่า อสม. 1 คน ดูแลประชาชน 5-10 หลังคาเรือน นับเป็นประเทศเดียวในโลก ที่มีอาสาสมัครดูแลสุขภาพคนในชุมชน ยาวนานต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2521 และจะครบ 30 ปี ในปี 2551 นี้ โดยไทยได้รับเลือกเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่จะจัดการโรคเรื้อรัง 5 โรค พร้อมจีนและอินเดีย คาดว่าเราจะทำสำเร็จได้ เพราะเรามีระบบเครือข่ายสาธารณสุขมูลฐานที่เข้มแข็ง มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมีผู้นำด้านสุขภาพที่เข้มแข็งในชุมชนคือ อสม. ซึ่งได้พัฒนาขีดความสามารถให้สามารถช่วยจัดการแก้ปัญหาโรคเรื้อรังด้วย พฤศจิกายน ******************************************** 1 พฤศจิกายน 2550


   
   


View 9    01/11/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ