บ่ายวันนี้ (16 มกราคม 2555) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์    ร่วมให้การต้อนรับและหารือกับนายโทนี แบลร์ ( Mr. Tony Blair)อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร และคณะ ที่เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเยือนประเทศไทย 

นายวิทยา กล่าวว่า ในการหารือครั้งนี้ นายโทนี แบลร์ ได้ให้ความสนใจและติดตามความก้าวหน้าการปฏิรูประบบสุขภาพของประเทศไทยในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทย หรือโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค    และมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากไทยและอังกฤษระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าคล้ายกัน โดยอังกฤษเริ่มมาแล้ว 64 ปี ส่วนไทยเริ่มมา 10 ปี และเป็นลักษณะของรัฐสวัสดิการ ประชาชนได้รับสิทธิดูแลสุขภาพทุกคนแบบองค์รวมคือทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสมรรถภาพ  ซึ่งไทยมุ่งจัดบริการประชาชนให้ดีที่สุดและมีแผนการจัดบริการขั้นพื้นฐาน โดยในอนาคต หากมีบริการที่นอกเหนือจากสิทธิประโยชน์ก็อาจให้ประชาชนร่วมจ่ายได้ 
 
 นายวิทยากล่าวต่อว่า นายโทนี แบลร์ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาระบบบริการในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าใน 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือการให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการให้บริการเสริมกับภาครัฐบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการใช้เทคโนโลยีบางอย่างซึ่งมีความก้าวหน้าและสลับซับซ้อน ก็จะทำให้ระบบบริการมีความสมบูรณ์แบบ เนื่องจากบริการสุขภาพของไทยส่วนใหญ่ร้อยละ 80 เป็นของภาครัฐ ที่เหลืออีกร้อยละ 20 เป็นของภาคเอกชน    และประเด็นที่ 2 คือเรื่องของการจ่ายค่าตอบแทนบุคลากรตามผลการปฏิบัติงาน(pay for performance : p4p) ซึ่งทางอังกฤษได้ทำมาระยะหนึ่งแล้ว และได้ผล ทำให้คิวรอรับบริการสั้นขึ้น    ซึ่งประเทศไทยพยายามดำเนินการเช่นกัน         โดยใช้เกณฑ์ 2 อย่างคือจ่ายตามความทุรกันดาร แต่ภาระงานอาจเท่ากัน และ 2. จ่ายตามความยากง่ายและภาระงาน
 
นายวิทยากล่าวต่ออีกว่า ประเด็นของการจ่ายค่าตอบแทนตามภาระงานดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทำยาก เพราะต้องหาค่าน้ำหนักความยุ่งยากของงานแต่ละประเภท ขณะนี้ไทยอยู่ระหว่างทดลองศึกษานำร่องที่โรงพยาบาลหลายแห่ง เช่น ที่โรงพยาบาลพาน จังหวัดเชียงราย โรงพยาบาลมะการักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี โรงพยาบาลสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งทางอังกฤษยินดีแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้แก่ประเทศไทยหากมีความต้องการ 
**************************16 มกราคม 2555
 
 


   
   


View 11       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ