“รมว.สมศักดิ์” พอใจผลงาน “คนไทยห่างไกลโรค NCDs จ.เชียงราย” อสม.กว่า 80% นับคาร์บได้ ประชาชนเรียนรู้นับคาร์บแล้ว กว่าแสนคน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ จ.เชียงราย ขับเคลื่อนนโยบายคนไทยห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ในระดับจังหวัดครั้งแรก สอนการนับคาร์บให้ อสม. ชมรมผู้สูงอายุ และผู้นำชุมชน ใน อ.พาน 2,000 คน เผย ผลงาน จ.เชียงราย มี อสม. นับคาร์บได้แล้ว 81% สอนประชาชนนับคาร์บไปแล้วกว่าแสนคน

วันนี้ (4 ธันวาคม 2567) ที่ สนามสิงห์ เชียงรายสเตเดียม อ.เมือง จ.เชียงราย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดกิจกรรมการขับเคลื่อนนโยบายคนไทยห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) จ.เชียงราย โดยมี นายชรินทร์ ทองสุขผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จำนวน 1,200 คน และผู้เข้าร่วมงานผ่านระบบ Online อีก 15,000 คน

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ขับเคลื่อนนโยบาย “คนไทยห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)” ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ โดยมุ่งเป้าลดจำนวนผู้ป่วยจากโรค NCDs รายใหม่ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไตเรื้อรัง และลดความรุนแรงของการเจ็บป่วยในผู้ป่วยรายเก่า ด้วยการส่งเสริมให้มีการปรับพฤติกรรมสุขภาพ ด้วยการบริโภคแบบนับคาร์บ หรือคาร์โบไฮเดรตที่มาจากอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล รวมถึงออกกำลังกาย
อย่างสม่ำเสมอ โดยมี อสม. หมอคนที่ 1 เป็นกลไกสำคัญในการสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้ขับเคลื่อนในระดับเขตสุขภาพครบทั้ง 12 เขตสุขภาพแล้ว สำหรับการจัดกิจกรรมใน จ.เชียงราย วันนี้ เป็นการดำเนินการระดับจังหวัดเป็นครั้งแรก

นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า จังหวัดเชียงรายมี อสม. ทั้งหมด 25,113 คน ในจำนวนนี้สามารถนับคาร์บได้ 20,524 คน คิดเป็นร้อยละ 81.22 และมีประชาชนที่ได้รับการสอนนับคาร์บไปแล้ว 102,871 คน รวมทั้งจังหวัดมีคนที่สามารถนับคาร์บได้ 123,395 คน จึงได้ใช้เวทีนี้ในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ รวมถึงพัฒนาศักยภาพ อสม.ให้มีความรู้ความเข้าใจในการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันและควบคุมการเกิดโรค NCDs ให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ชาวเชียงราย โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานกว่า 75,000 คน และผู้ป่วยความดันโลหิตสูงกว่า 180,000 คน สามารถปรับลดยา งดยาบางตัว หรือหยุดยาและเข้าสู่ระยะโรคสงบได้ ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่ายของครอบครัว รวมถึงช่วยลดงบประมาณด้านสุขภาพให้กับประเทศได้อีกทางหนึ่ง โดยในช่วงเช้า ตนได้เดินทางไปวัดหัวฝาย อ.พาน เพื่อให้ความรู้เรื่องการนับคาร์บให้กับ อสม. ชมรมผู้สูงอายุ และผู้นำชุมชน ประมาณ 2,000 คน ด้วย

********************************************* 4 ธันวาคม 2567