สธ. เผยวัยรุ่นไทยร้อยละ 77 ขาดความรู้โรคเอดส์ เร่งจับมือศธ. ช่วยกันเติมเต็ม

กระทรวงสาธารณสุขเผยวัยรุ่นไทยเกือบร้อยละ 77 มีความรู้เรื่องโรคเอดส์น้อย เสี่ยงติดโรคสูงร่วมมือกับกระทรวงศึกษาจัดเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ พัฒนาศักยภาพนักเรียนนักศึกษาจาก 52 สถาบัน เป็นแกนนำเผยแพร่ความรู้โรคเอดส์ วันนี้ (24 ตุลาคม 2550) นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายแกนนำด้านการป้องกันเอดส์จำนวน 250 คน ประกอบด้วย แกนนำเยาวชนและอาจารย์จาก 52 สถาบัน ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานส่งเสริมคณะกรรมการการศึกษาเอกชน สำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียนนักศึกษาและกิจกรรมพิเศษ สำนักงานป้องกันควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด องค์กรต่างประเทศ องค์กรเอกชน สภาเยาวชน และเครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์ประเทศไทย ที่โรงแรมโรสการ์เด้น จังหวัดนครปฐม นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาการติดเชื้อเอดส์ในกลุ่มของเยาวชนน่าเป็นห่วง อันเป็นผลพวงจากสภาพแวดล้อมทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากรายงานการเฝ้าระวังโรคเอดส์ถึงวันที่ 30 กันยายน 2550 พบผู้ป่วยเอดส์จำนวนสะสม 321,650 ราย เป็นผู้ป่วยกลุ่มอายุระหว่าง 25-34 ปี ร้อยละ 50 ของผู้ป่วยทั้งหมด ซึ่งข้อมูลการติดเชื้อของกลุ่มอายุดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่ามีการติดเชื้อมาตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น และมาแสดงอาการป่วยเมื่อเข้าสู่วัยแรงงานเต็มตัว และข้อมูลจากการสำรวจความรู้เรื่องโรคเอดส์ของเยาวชนไทย ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันกับทั่วโลก ในปี 2549 พบว่ามีเยาวชนชายเพียงร้อยละ 23 และเยาวชนหญิงร้อยละ 26 ที่ตอบได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ผลการเฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยงในปี 2549 พบว่า อัตราการใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์แบบชั่วคราวในกลุ่มเยาวชนมีน้อยกว่าร้อยละ 50 และอายุเฉลี่ยในการมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น เฉลี่ย 15 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้อายุการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเฉลี่ย 18 ปี โดยนักเรียนชาย ร้อยละ 36 และนักเรียนหญิง ร้อยละ 28 ผ่านการมีเพศสัมพันธ์แล้ว โดยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับแฟนหรือคู่รัก ในนักเรียนชายร้อยละ 32 และนักเรียนหญิงร้อยละ 27 ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว อาจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น ปัญหาการติดเชื้อเอชไอวี การตั้งครรภ์ที่ยังไม่มีความพร้อม จนอาจส่งผลให้ขาดโอกาสในการศึกษาเล่าเรียนและการสร้างอนาคต อีกทั้งยังส่งผลต่อเนื่องไปยังครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศชาติด้วย นายแพทย์ไพจิตร กล่าวต่อไปว่า ในการแก้ไขและป้องกันปัญหาดังกล่าวในระยะยาวให้ยั่งยืน กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับสถาบันการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ทำโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายแกนนำด้านการป้องกันเอดส์ เริ่มในปี 2549 มีการอบรมเยาวชนแกนนำรุ่นที่ 1 และ 2 และสนับสนุนงบประมาณเพื่อให้เยาวชนแกนนำจัดตั้งชมรม จัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้เกี่ยวการป้องกันการติดเชื้อเอดส์ทั้งในและนอกสถานศึกษา มีสถานศึกษาเข้าร่วมโครงการ 52 แห่ง ใน 15 จังหวัด ได้แก่ ตราด กาญจนบุรี ลพบุรี สระแก้ว เพชรบูรณ์ นครนายก นครสวรรค์ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ลำปาง สุรินทร์ และอุดรธานี ผลการดำเนินงานของเครือข่ายแกนนำใน 2 ปีที่ผ่านมา ได้แก่ จัดอบรมให้ความรู้แก่เยาวชน จัดรณรงค์และกิจกรรมที่เกี่ยวกับการป้องกันเอดส์ เช่น ประกวดคำขวัญ ประกวดร้องเพลง แข่งขันกีฬา จัดนิทรรศการ โต้วาที เป็นต้น มีเยาวชนในสถานศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 21,758 คน และขยายผลกิจกรรมด้านการป้องกันเอดส์ให้กับชุมชน จำนวน 9 ชุมชน และจัดตั้งชมรมที่ดำเนินงานเรื่องการป้องกันเอดส์ในสถานศึกษา จำนวน 11 ชมรม ด้านนายแพทย์สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการจัดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานของเครือข่ายเยาวชนในครั้งนี้มีกำหนดไว้ 2 วัน คือระหว่างวันที่ 24-25 ตุลาคม 2550 ภายใต้แนวคิดที่ว่า “ติดอาวุธความคิด พิชิตเอดส์” กิจกรรมประกอบด้วยการร้องเพลง “กล้าใหม่ หัวใจไร้เอดส์” ซึ่งแต่งขึ้นมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ และการแสดงละครโดยเยาวชนแกนนำ การอภิปรายและบรรยายจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายหน่วยงาน ในหัวข้อทิศทางของเยาวชนไทยกับการป้องกันแก้ไขปัญหาเอดส์ การเลี้ยงลูก สอนศิษย์ ไม่ให้ติดเอดส์ ปัญหาด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ของเยาวชนในปัจจุบัน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอผลงานของเยาวชนแกนนำในรูปแบบโปสเตอร์ และร่วมกันกล่าวคำปฏิญญารวมพลังป้องกันเอดส์ และแปลขบวนเป็นรูปริบบิ้นสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สากลของโรคเอดส์ ************************************ 24 ตุลาคม 2550