ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยปัญหาแรงงานต่างชาติที่เข้ามารับบริการในไทย แก้ไขได้ด้วย ประชารัฐ     นำแรงงานต่างชาติเข้าระบบประกันสุขภาพ ช่วยระบบสาธารณสุขไทยเข้มแข็ง กำชับทุกจังหวัดรณรงค์นำแรงงานต่างชาติ พร้อมผู้ติดตามและคนต่างชาติประมาณ 3.5ล้านคน เข้ารับการตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพ เพื่อประโยชน์ต่อตัวแรงงาน ผู้ติดตาม นายจ้างและคนไทยทุกคน

       นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน มีการเคลื่อนย้ายประชากรระหว่างประเทศได้อย่างเสรี  สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขตระหนักและเร่งดำเนินการ อาทิ โรคที่มากับการเคลื่อนย้ายประชากร โดยเฉพาะโรคติดต่อ เพื่อที่ไม่ให้เป็นภัยคุกคามคนไทยและระบบป้องกันควบคุมโรคของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมามีความร่วมมือในการดำเนินงานทั้งระดับประเทศ และระดับพื้นที่บริเวณแนวชายแดน ในส่วนของแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทย กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ มหาดไทย ตำรวจ ตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินงานให้เข้าสู่ระบบประกันสุขภาพทั้งหมด ครอบคลุมไปถึงผู้ติดตามและครอบครัว เพื่อให้กลุ่มดังกล่าว เข้าถึงบริการที่จำเป็น ทั้งการส่งเสริมป้องกัน รักษา เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรม

    โดยกระทรวงสาธารณสุขได้จัดระบบรองรับแรงงานต่างชาติ ซึ่งหมดระยะเวลาผ่อนผันให้อยู่ในประเทศและอนุญาตให้ทำงานอย่างถูกกฎหมาย ในวันที่ 31 มีนาคม2559 ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ รณรงค์ให้ผู้ประกอบการนำแรงงานต่างชาติ ผู้ติดตาม และคนต่างชาติที่มีประมาณ 3.5 ล้านคน มาตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพ ก่อนขึ้นทะเบียนให้มากที่สุด เพื่อประโยชน์ต่อตัวแรงงาน ผู้ติดตาม นายจ้างและคนไทยทุกคน โดยเฉพาะผู้ติดตามแรงงานต่างชาติที่เป็นเด็กจำเป็นต้องได้รับวัคซีนตามแผนการให้วัคซีนของไทย เพื่อป้องกันไม่ให้โรคติดต่อที่หายไปแล้วเช่น คอตีบ โปลิโอ กลับมาระบาดอีกครั้ง โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน ตั้งแต่ 1เมษายน -29 กรกฎาคม 2559

         ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดหน่วยบริการตรวจสุขภาพและออกใบรับรองแพทย์สำหรับแรงงานต่างชาติ ได้แก่ โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร 6 แห่ง คือ โรงพยาบาลกลาง นพรัตน์ราชธานี เลิดสิน ราชวิถี ตากสิน เจริญกรุงประชารักษ์ และโรงพยาบาลเอกชน 2 แห่ง คือพิชัยเวชและบางปะกอก 9 สำหรับอัตราค่าบริการในการตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพเป็นอัตราเดิม โดยในแรงงานต่างชาติ รวมถึงผู้ติดตาม ซึ่งเป็นบุตรของแรงงานต่างชาติอายุ 7-18 ปี บัตรราคา 3,700 บาท คุ้มครอง 2 ปี ค่าตรวจสุขภาพครั้งแรกคนละ 500 บาท ค่าประกันสุขภาพคนละ 3,200 บาท ค่าตรวจสุขภาพครั้งต่อไปอีก 1 ปีค่าตรวจ 500 บาท ในส่วนผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรอายุไม่เกิน 7 ปี ไม่มีค่าตรวจสุขภาพ บัตรราคา 730 บาท คุ้มครอง 2 ปี  ค่าประกันสุขภาพคนละ 730 บาท โดยสิ้นสุดการคุ้มครอง 31 มีนาคม 2561      

           “อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการนำแรงงานต่างชาติมาขึ้นทะเบียนซื้อบัตรประกันสุขภาพให้ได้มากที่สุดนั้น ลำพังกระทรวงสาธารณสุขหน่วยงานเดียวคงไม่สำเร็จ ความร่วมมือในลักษณะประชารัฐ จะช่วยได้มาก ปัญหาแรงงานต่างชาติเป็นเรื่องใหญ่ ต้องดำเนินงานในหลายมิติ ร่วมทั้งด้านสาธารณสุขด้วย ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยจากภัยคุกคามด้านโรคติดต่อและคงความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทย นพ.โสภณ กล่าว

********************************* 6 มิถุนายน 2559



   
   


View 12    06/06/2559   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ