สธ. ขยายผล “ธวัชบุรีและท่าวังผาโมเดล” แก้ปัญหายาเสพติดครบวงจรใน 10 จังหวัด เปิดตัว แอปฯ ล้อมรักษ์ ช่วยผู้ป่วยเข้าถึงบำบัดรักษา
- สำนักสารนิเทศ
- 163 View
- อ่านต่อ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมและรับฟังผลการดำเนินงานของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรมควบคุมโรค และกรมอนามัย เน้นให้กรมบูรณาการทำงานแก้ไขปัญหาสุขภาพประชาชนร่วมกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องและในกระทรวงฯ เพื่อบรรลุกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน ลดความซ้ำซ้อนการใช้งบประมาณ เพิ่มความเข้มแข็งอสม.ทำงานในชุมชน โดยไทยเตรียมแผนร่วมพลังนานาชาติ ควบคุมการแพร่ระบาดโรคอีโบล่าใน 4 ประเทศอาฟริกาตะวันตก ทั้งเรื่องการระดมเงินบริจาค การส่งหน่วยแพทย์อาสา ไปดูแลในโรงพยาบาลสนาม โดยจะเสนอที่ประชุมครม.เพื่อพิจารณาในวันพรุ่งนี้
วันนี้ (29 กันยายน 2557) ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมด้วยนายแพทย์สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมและรับฟังผลการดำเนินงานของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรมควบคุมโรค และกรมอนามัย ว่า ในส่วนของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ มีนโยบายมุ่งเน้นให้ดูแลมาตรฐานบริการของโรงพยาบาลเอกชน คลินิกต่างๆ ที่มีรวมกัน 21,865 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งให้เพิ่มการกำกับควบคุม ดูแลมาตรฐานของระบบวิศวกรรมการแพทย์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบบริการสุขภาพ โดยเฉพาะเครื่องมือแพทย์ต่างๆ รวมทั้งระบบน้ำในโรงพยาบาล การอบฆ่าเชื้อ และสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาระบบบริการให้มีมาตรฐาน เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่ดีที่สุด เชื่อมั่นในความปลอดภัย ขณะเดียวกันพัฒนาคุณภาพ และศักยภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขที่มี 1 ล้าน 4 หมื่นกว่าคนทั่วประเทศ เพื่อร่วมทำงานแก้ไขปัญหาสุขภาพของประชาชนในหมู่บ้าน ชุมชน ตำบล เป็นการเสริมความเข้มแข็งกลไกของรัฐ
ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ กล่าวต่อว่า สำหรับกรมควบคุมโรค บทบาทที่เน้นหนัก 3 ด้านคือ1.การ
สำหรับภารกิจของกรมอนามัย ซึ่งมีบทบาทในการส่งเสริมสุขภาพป้องกันการป่วยเป็นหลัก ดูแลประชากรทุกกลุ่มวัยตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ รวมถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมด้วย ได้มอบนโยบายให้บูรณาการการทำงานระหว่างกรมและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่นกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพาณิชย์ โดยให้กรมอนามัยเสริมมาตรฐานด้านวิชาการ สอดคล้องกับทิศทางนโยบายรัฐบาลและรองนายกฝ่ายสังคมจิตวิทยา เพื่อให้เป็นงานภาพใหญ่ของประเทศ เช่นโครงการดูแลสุขภาพของเด็กปฐมวัยและวัยรุ่น โครงการป้องกันการขาดสารไอโอดีน เป็นต้น
ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2558 ของกรมอนามัย ประกอบด้วย โครงการพระราชดำริและโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ เช่นโครงการฟันเทียมพระราชทานและการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว โครงการควบคุมป้องกันโรคขาดสารไอโอดีน โครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี รวมทั้งโครงการส่งเสริมสุขภาพประชาชนใน 5 กลุ่มวัยตามยุทธศาสตร์กระทรวงสาธารณสุข การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยได้เตรียมร่างกฎหมายและร่างกฎกระทรวง เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองการให้นมแม่ พระราชบัญญัติอนามัยการเจริญพันธุ์ การแก้ไขพระราชบัญญัติการสาธารณสุข การออกกฎกระทรวงเรื่องการเก็บค่าบำบัดขยะและการแยกขยะ เพื่อเป็นแนวทางให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปใช้ในการกำจัดขยะที่ถูกต้องต่อไป และแผนงานทันตสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุประเทศไทย พ.ศ. 2558-2564 เพื่อเสนอที่ประชุม ครม. ผลักดันเป็นกฎหมายต่อไป