กระทรวงสาธารณสุข จัดสัมมนาระดับชาติเรื่องโรคเอดส์ 4-6 ก.ค.นี้ เน้นนำนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ในทุกกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่มีแนวโน้มเพิ่มต่อเนื่อง และแม่บ้านที่ได้รับเชื้อจากสามี ซึ่งมีถึงร้อยละ 40 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ บ่ายวันนี้ (29 มิถุนายน 2550) ที่กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี นายแพทย์มรกต กรเกษม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และนางสาวฟ้ารุ่ง ยุติธรรม มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ร่วมกันแถลงข่าว การสัมมนาระดับชาติเรื่องโรคเอดส์ ครั้งที่ 11 นายแพทย์มรกต กล่าวว่า โรคเอดส์เป็นปัญหาที่แพร่ระบาดไปทั่วทุกภูมิภาคของโลก ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ยังมีชีวิตอยู่ถึง 40 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศยากจนหรือกำลังพัฒนา ในส่วนของประเทศไทย ผลจากการดำเนินมาตรการต่างๆ ทั้งถุงยางอนามัย 100 เปอร์เซ็นต์ การให้ยาต้านไวรัสเอดส์ในหญิงตั้งครรภ์ เพื่อลดการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก รวมทั้งการรณรงค์ให้ความรู้ในทุกกลุ่มเสี่ยง ทำให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงจากปีละกว่า 1 แสนราย เหลือปีละประมาณ 16,000 คน คาดว่าขณะนี้มีผู้ติดเชื้อที่ยังมีชีวิตอยู่ 5-6 แสนคน ซึ่งผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งจะมีภูมิคุ้มกันในระดับต่ำ จึงจำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัสเอดส์ ทั้งนี้ หลังจากมีการนำยาต้านไวรัสเอดส์บรรจุไว้ในสิทธิประโยชน์ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้ผู้ติดเชื้อ/ผู้ป่วยเอดส์มีโอกาสเข้าถึงยาต้านไวรัสมากขึ้น โดยขณะนี้มีผู้ป่วย/ผู้ติดเชื้อได้รับยาต้านไวรัสเอดส์แล้วกว่า 80,000 ราย นายแพทย์มรกต กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ที่รับยาต้านไวรัสส่วนหนึ่งพบว่า มีปัญหาดื้อยาและจำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัสสูตรดื้อยา ซึ่งมีราคาค่อนข้างแพง ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาได้อย่างเท่าเทียมกัน ประเทศไทยจึงได้นำมาตรการการประกาศใช้สิทธิต่อสิทธิบัตรยา หรือ ซีแอล มาใช้ เพื่อให้ยาต้านไวรัสเอดส์มีราคาถูกลง ผู้ติดเชื้อได้รับยาจำนวนมากขึ้นในงบประมาณที่มีจำกัด ซึ่งแนวทางนี้ได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากหลายๆ ประเทศ ว่าเป็นมาตรการที่ช่วยให้ผู้ติดเชื้อเอดส์เข้าถึงยาที่จำเป็นต่อการรักษาอย่างเหมาะสม นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่นมีแนวโน้มการติดเชื้อเอดส์เพิ่มสูงขึ้น จากพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สะสมกิ๊ก ไม่ชอบใช้ถุงยางอนามัย โดยเยาวชนอายุ 20-24 ปี ติดเชื้อร้อยละ 8.59 อายุ 0-14 ปี ติดเชื้อร้อยละ 4.18 และยังพบอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นใน กลุ่มเสี่ยงอื่น เช่น ชายรักเพศเดียวกัน ผู้ใช้ยาเสพติด และหญิงอาชีพพิเศษ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังได้คาดการณ์ว่า ผู้ติดเชื้อเอดส์รายใหม่ของไทยประมาณร้อยละ 30-40 จะเป็นแม่บ้านที่ไม่คิดว่าตนเองจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อ ทำให้ขาดการป้องกันตนเอง ดังนั้นนอกจากการรณรงค์เพื่อลดการติดเชื้อในกลุ่มเสี่ยงต่างๆ แล้ว ยังต้องส่งเสริมความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ ให้ผู้หญิงกล้ามีสิทธิ์มีเสียงเพื่อความปลอดภัยของตนเองด้วย ด้านนายแพทย์สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การสัมมนาระดับชาติเรื่องโรคเอดส์ ครั้งที่ 11 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2550 ที่อาคารคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้หัวข้อ “เอดส์ ก้าวต่อไป ในยุคเศรษฐกิจพอเพียง” เน้นการนำนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นหลักในการพัฒนาการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ โดยจะมีการบรรยายพิเศษเรื่อง “ประสบการณ์ของไทย ในการบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร ก้าวย่างที่ท้าทาย” และ “การดูแลรักษาผู้ป่วย/ผู้ติดเชื้อเอดส์ ภายใต้สิทธิประโยชน์” ด้วย โดยผู้สนใจสามารถร่วมงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ***************************** 29 มิถุนายน 2550


   
   


View 2       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ