กระทรวงสาธารณสุข เตือนภัยโรคพิษสุนัขบ้า พบได้ตลอดปีเป็นโรคร้ายแรงป่วยแล้วเสียชีวิต 100 เปอร์เซ็นต์ ทั่วโลกพบผู้เสียชีวิตปีละไม่ต่ำกว่า 50,000ราย ส่วนไทยปีที่แล้วมี 6 ราย ชี้โรคนี้ป้องกันได้ด้วยวัคซีน โดยฉีดในสัตว์เลี้ยงทุกปี ส่วนในคนหากถูกสุนัขหรือแมวกัด ข่วน ให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาด และพบแพทย์เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคทันที โดยกระทรวงสาธารณสุขจับมือกรมปศุสัตว์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าทั่วประเทศ ภายในปี 2558
 
นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า(Rabies) ว่าเป็นโรคร้ายแรงที่พบได้ตลอดปี โรคนี้มีความเป็นพิเศษต่างจากโรคอื่นๆ คือ หากติดเชื้อจนมีอาการป่วยจะไม่สามารถรักษาให้หายได้  ต้องเสียชีวิตทุกราย แต่โรคนี้ป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนในสัตว์เลี้ยงและในคนหลังถูกสุนัขหรือแมวกัด แต่ละปีทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้กว่า 50,000 คน ประเทศไทยสัตว์ที่แพร่เชื้อมากที่สุดคือสุนัข พบผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าทุกปี ในปี 2556 มี 6ราย ทุกรายถูกสุนัขกัด และไม่ได้ฉีกวัคซีนหลังถูกกัด จึงนับว่าโรคนี้ยังเป็นปัญหาอยู่ เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันในสุนัขบางพื้นที่ครอบคลุมไม่ถึงร้อยละ 80 ของสุนัขในพื้นที่ ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ซึ่งคาดว่าทั่วประเทศมีประชากรสุนัขประมาณ 7ล้านตัว ในแต่ละปีคนไทยถูกสุนัขกัดไม่ต่ำกว่า 1ล้านคน ในจำนวนนี้ประมาณร้อยละ 50 เท่านั้นที่มารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค
 
นายแพทย์ณรงค์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้เร่งสร้างพื้นที่ในชนบทและเขตเมืองทั่วประเทศให้ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า ตั้งเป้าครบ100 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2558 เพื่อกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศภายในพ.ศ.2563 ตามเป้าที่อนามัยโลกและองค์การควบคุมโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศกำหนด โดยร่วมมือกับกรมปศุสัตว์และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัขตั้งแต่อายุ 3เดือนขึ้นไปครอบคลุมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของสุนัขที่มีในหมู่บ้าน ขึ้นทะเบียนการเลี้ยงทุกหลังคาเรือนและทำหมัน เพื่อควบคุมจำนวนสุนัขโดยเฉพาะสุนัขจรจัด และให้เจ้าของนำสุนัขไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคทุกปี
 
                ทางด้าน นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคพิษสุนัขบ้าหรือโรคกลัวน้ำ เกิดจากเชื้อไวรัส ก่อโรคในสัตว์เลือดอุ่นเลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดเช่น สุนัข แมว วัว ควาย ลิง ชะนี เป็นต้น ในไทยพบว่าสุนัขป่วยเป็นโรคนี้มากที่สุดร้อยละ 96 รองลงมาคือแมว เชื้อติดต่อสู่คนจากการถูกสัตว์ที่เป็นโรคกัด ข่วน เลีย น้ำลายกระเด็นเข้าทางตา ปาก หรือบาดแผลตามผิวหนัง โดยเชื้อไวรัสจะเพิ่มจำนวนที่บริเวณแผลถูกกัด หลังจากนั้นประมาณ 3 สัปดาห์-4เดือน จะมีอาการป่วย บางรายอาจเร็วเพียง 4 วัน  การป่วยจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับจำนวนเชื้อที่เข้าไป ตำแหน่งบาดแผล หากอยู่ใกล้สมอง เชื้อจะเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง หรือเข้าสู่สมองได้เร็ว    ผู้ป่วยจะมีอาการคลุ้มคลั่ง ดุร้าย กระวนกระวาย หากเชื้อเข้าสู่ไขสันหลังจะทำให้สมองและไขสันหลังทำงานผิดปกติ  มีอาการอัมพาตและเสียชีวิตในที่สุด  
 
 ปัจจุบันยังไม่มียาใดที่รักษาโรคพิษสุนัขบ้าได้ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าแล้ว จะเสียชีวิตทุกราย แต่สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนหากถูกสุนัขกัด ถูกเล็บข่วน หรือถูกเลียบริเวณที่มีบาดแผล ขอให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาด และไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ในสถานพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ใกล้ที่สุด           ทั้งนี้ อาการของสุนัขที่ป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าที่สังเกตง่ายคือ สุนัขจะมีอารมณ์หงุดหงิด หางตก น้ำลายไหล อาจมีอาการคล้ายคล้ายกระดูกหรือก้างติดคอ ซึ่งอาจทำให้เจ้าของเข้าใจผิด เอามือไปล้วงที่ปาก คลำหาก้างหรือกระดูก หากพบสุนัขมีอาการดังกล่าว ขอให้นึกถึงโรคพิษสุนัขบ้า และแยกสุนัขไว้ไม่ให้คลุกคลีกับสุนัขอื่นหรือคน และแจ้งปศุสัตว์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที
 
************************************* 8 กุมภาพันธ์ 2557


   
   


View 12    08/02/2557   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ