กระทรวงสาธารณสุข เผยผลสำรวจล่าสุด คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ดื่มเหล้ามากถึง 17 ล้านคน ในจำนวนนี้เกือบ 4 ล้านคนอยู่ในขั้นติดเหล้า โดยพะเยาครองแชมป์ทั้งผู้ใหญ่และเด็กวัยรุ่นดื่มเหล้ามากสุดในประเทศ เร่งรณรงค์เชิญชวนคนไทย ร่วมลงนามปฏิญญาตน งดเหล้าเข้าพรรษา เริ่มตั้งแต่วันเข้าพรรษา 23 กรกฎาคม 2556 เป็นต้นไป เพื่อทำความดีถวายในหลวงและสมเด็จพระสังฆราช โดยจะจัดทำสมุดทำความดี 150,000เล่ม แจกจ่ายไปถึงทุกหน่วยราชการ ทุกหมู่บ้าน วัด โรงเรียน โรงงานให้ประชาชนร่วมลงชื่อ หรือลงชื่อผ่านทางเว็ปไซต์ www.thaiantialcohol.comและ www.1king1heart.net ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะนำรายชื่อทูลเกล้าถวายในหลวงในเดือนสิงหาคม 2556 ตั้งเป้าจะให้ได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน

วันนี้ (13 มิถุนายน 2556) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พระมหานภันต์ สนฺติภทโท ประธานกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯวัดสระเกศ ดร.นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ร่วมกันแถลงข่าวว่า ในเทศกาลวันเข้าพรรษาประจำปี 2556 นี้ ซึ่งตรงกับวันที่ 23 กรกฎาคม 2556 ที่จะถึงนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับสสส.จัดโครงการ วันงดดื่มสุราแห่งชาติ ทำดีถวายในหลวง 2556 รณรงค์ส่งเสริมให้คนไทยลด ละเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ซึ่งเป็นต้นเหตุทำลายสุขภาพ ทั้งปัจจุบันทันด่วน และในระยะยาวเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระชนมายุครบ 86 พรรษา และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายกทรงมรพระชุนมายุครบ 100 พรรษา
ตามโครงการดังกล่าว ได้จัดทำสมุดทำความดีจำนวน 150,000 เล่ม แจกจ่ายไปยังทุกจังหวัด เชิญชวนให้ประชาชนไทยทุกศาสนา ร่วมลงชื่อปฏิญาณตน งดดื่มเหล้าตลอดช่วงเทศกาลเข้าพรรษา 3 เดือน เริ่มต้นตั้งแต่วันเข้าพรรษา คือวันที่ 23 กรกฎาคม 2556 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ไปจนถึงวันออกพรรษาในวันที่ 19 ตุลาคม 2556 ประชาชนสามารถลงนามร่วมโครงการดังกล่าวได้ ที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรือ อสม.โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงงาน วัด โรงเรียนทุกแห่ง หรือลงนามผ่านระบบออนไลน์ 24 ชั่วโมง ที่ www.thaiantialcohol.comและ www.1king1heart.net  ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยจะให้ อสม.ซึ่งมี 1 ล้านกว่าคน รณรงค์คนละ 10 รายชื่อ และจะรวบรวมรายชื่อทั้งหมดทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ โรงพยาบาลศิริราช ประมาณเดือนสิงหาคม 2556 ในเบื้องต้นตั้งเป้าให้ได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ขณะนี้การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทยมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ อัตราการดื่มอยู่ในอันดับที่ 40 ของโลก และอันดับ 3 ของทวีปเอเชีย อัตราการดื่มเฉลี่ยคนละ 8.47 ลิตรต่อปี ผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2543-2553 พบว่าทุกครอบครัวมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์ คิดเป็นร้อยละ 43 ของรายจ่ายทั้งหมด สูงกว่าค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล 2 เท่าตัว และสูงกว่าค่าใช้จ่ายเพื่อ การศึกษา 3 เท่าตัว และมีมูลค่าเป็น 1 ใน 5 ของค่าอาหารการกินต่อปี กลุ่มที่มีฐานะยากจนใช้จ่ายในเรื่องนี้สูงกว่าผู้ที่มีฐานะดี ผลที่ตามมาจากการดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้ ทำให้เกิดอุบัติเหตุและอาชญากรรมมีปรากฏเป็นข่าวทุกวัน และเป็นตัวก่อโรคกว่า 60 โรคที่พบบ่อยในคนไทยคือมะเร็งตับ กระเพาะอาหารทะลุ เป็นต้น           
ผลการสำรวจพฤติกรรมการดื่มสุราของคนไทยในปี 2554 โดยสอบถามครอบครัวที่มีสมาชิกดื่มสุราและมีปัญหา พบว่า มีถึงร้อยละ 37 ที่มีปัญหาความรุนแรงและความสัมพันธ์ในครอบครัว เกิดการทะเลาะเบาะแว้งทั้งภายในและภายนอกครอบครัว   คดีที่มีการกระทำผิดร่วมกับการดื่มสุราอันดับ 1 คือ การทำร้ายร่างกาย ร้อยละ 56 รองลงมาคือความผิดเกี่ยวกับเพศ ร้อยละ 46 และความผิดเกี่ยวกับอาวุธ วัตถุระเบิด ร้อยละ 41 รวมทั้งเป็นสาเหตุสูญเสียชีวิตก่อนวัยอันควรสูงสุด 3 ลำดับแรกคือ อุบัติเหตุจราจร เอดส์ และตับแข็ง
ทั้งนี้ผลการสำรวจพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลุ่มผู้มีอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ในปี 2554 พบว่ามีผู้ดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมด 17 ล้านคน โดยดื่มเป็นประจำเกือบ 8 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 44 เพิ่มขึ้นจากในปี 2544 ที่มีจำนวนร้อยละ 35 โดยมีเกือบ 4 ล้านคนอยู่ในขั้นติดเหล้าต้องดื่มทุกวัน จังหวัดที่มีนักดื่มสูงสุด 5 อันดับแรกในประชากรผู้ใหญ่คือ พะเยา แพร่ เชียงราย นครพนม และน่าน จังหวัดที่มีนักดื่มสูงสุด 5 อันดับแรกในประชากรวัยรุ่นอายุ 15-19 ปีคือ พะเยา สุโขทัย เลย แพร่ และศรีสะเกษ จังหวัดที่มีนักดื่มหนักสูงสุด 5 อันดับแรกคือ แม่ฮ่องสอน นครนายก พะเยา พระนครศรีอยุธยา และปราจีนบุรี ส่วนในกทม.พบร้อยละ 9 โดยเฉลี่ยเริ่มดื่มเมื่ออายุ 20 ปี และมักดื่มเป็นกลุ่ม มักนิยมดื่มในสถานที่ส่วนตัวมากที่สุด โดยเฉพาะที่บ้านของคนอื่น เนื่องมาจาก 4 ปัจจัยหลักได้แก่ อิทธิพลจากการรับสื่อโฆษณาทำให้เยาวชนอยากลอง สิ่งแวดล้อมภายในครอบครัว จากเพื่อน และเข้าถึงเครื่องดื่มชนิดนี้ง่าย ในการแก้ไขและป้องกันปัญหาดังกล่าว จึงต้องเข้มข้นด้านการใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ควบคู่กับการณรงค์สร้างค่านิยมใหม่ สังคมไทยไม่ดื่มสุรา และเปิดคลินิกบำบัดผู้ติดเหล้าในโรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ที่ต้องการเลิกดื่ม สามารถเลิกได้เป็นผลสำเร็จ
                ด้านนายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการจัดกิจกรรมในโครงการวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ทำดีถวายในหลวง 2556 ครั้งนี้ ประกอบด้วย การเผยแพร่คำขวัญวันงดดื่มสุราแห่งชาติจากนายกรัฐมนตรี การลงนามปฏิญาณตนทำความดีถวายในหลวงโดยงดดื่มสุราในช่วงเข้าพรรษา โดยจะจัดรณรงค์เนื่องในวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2556 ณ สนามกีฬากระทรวงสาธารณสุข โดยมี ฯพณฯนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นประธานในพิธี พร้อมลงนามในสมุดปฏิญาณตน และนำกล่าวคำปฏิญาณตนวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ทำความดีถวายในหลวง แก่ผู้ร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย ศิลปิน ดารา เยาวชน ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ใน 20 กระทรวงที่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือให้สถานที่ที่อยู่ในกำกับดูแลปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และร่วมเชิญชวนข้าราชการ พนักงาน ตลอดจนประชาชนทั่วไปร่วมปฏิญาณตน งดเหล้าเข้าพรรษา การเดินพาเหรดของนักเรียนในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี 8 โรงเรียน ภายใต้แนวคิด โทษ พิษ ภัย ของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการเสวนา เรื่อง เยาวชนไทยกับภัยแอลกอฮอล์มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินดารา และการแสดงของโรงเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม การแข่งขันกีฬา พื้นบ้านสานความสามัคคี การแสดงของนักเรียน เช่น การแสดงวงดนตรีลูกทุ่งของนักเรียนประกาศผลการแข่งขันกีฬา ประกวดกองเชียร์/เชียร์ลีดเดอร์ ด้วย และขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจร่วมกิจกรรมในวันดังกล่าว มิถุนายน
 ********************************** 13 มิถุนายน 2556


   
   


View 13    13/06/2556   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ