เช้าวันนี้ (27พฤศจิกายน 2555) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข คณะผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้แทนหน่วยงาน สมาคม และองค์กรต่างๆ ร่วมพิธีวางพานพุ่มถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ณ หน้าอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งพระองค์ทรงเป็นผู้ทรงวางรากฐานการสาธารณสุขของประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้า  เนื่องในโอกาสคล้ายวันสถาปนากระทรวงสาธารณสุขซึ่งตรงกับวันที่ 27 พฤศจิกายน ทุกปี ในปีนี้เป็นวันครบรอบ 70 ปี และประกอบพิธีสงฆ์อุทิศส่วนกุศลให้อดีตข้าราชการ      และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขที่ล่วงลับไปแล้ว  จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้นำผู้บริหารกระทรวง ข้าราชการเจ้าหน้าที่  ถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดิน

             

                      

                      

          นายแพทย์ประดิษฐ กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2485 จนถึงวันนี้ ตลอดระยะเวลา 70 ปี กระทรวงสาธารณสุขได้มุ่งมั่น ทุ่มเทดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนไทยทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพ ประสิทธิภาพระบบบริการสุขภาพ และปรับปรุงคุณภาพของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค  และบูรณาการสิทธิผู้ป่วยที่พึ่งได้รับจากระบบประกันสุขภาพต่างๆ ให้ทัดเทียมกัน รวมทั้งพัฒนากำลังคนภาครัฐด้านสาธารณสุข ให้มีบทบาทสู่เวทีสุขภาพโลกเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

        ทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงฯจากนี้ไป มีนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดทุกระดับ    ปรับกลไกการดำเนินงาน ปรับโครงสร้างด้านการเงินการคลัง เพื่อสร้างดุลยภาพของรายได้และรายจ่ายที่เหมาะสมกับหน่วยบริการแต่ละแห่ง พัฒนากำลังคนภาครัฐด้านสาธารณสุข ให้มีความมั่นคง และมีความสุขในการทำงาน    โดยนำนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ  มาช่วยเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ให้การดูแลส่งเสริมสุขภาพประชากร   ทุกกลุ่มวัย อาทิ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส พร้อมทั้งปรับปรุงคุณภาพบริการประชาชน ลดความแออัดระยะเวลารอแพทย์ให้สั้นลง มีหมอใกล้บ้านใกล้ใจทุกครัวเรือน สามารถให้คำปรึกษาได้ตลอดเวลา พัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน แก้ไขปัญหายาเสพติดโดยเน้นการเผยแพร่ผลวิจัยใหม่ๆในเรื่องอันตรายของยาเสพติด   เพื่อป้องกันการเสพยาให้ได้มากที่สุด รวมถึงโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการเฉลิมพระเกียรติต่าง ๆ    

 

                         

                         

ขณะเดียวกันเร่งลดโรคเรื้อรัง ที่เป็นปัญหาและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตประชาชนมากที่สุด 4 อันดับแรก อันดับ 1 ได้แก่ โรคมะเร็ง รองลงมาคือ อุบัติเหตุ ความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดในสมอง และโรคหัวใจ   ในปี 2554 มีผู้เสียชีวิตจาก 4 โรคที่กล่าวมารวม 138,027 ราย คิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของผู้เสียชีวิตทุกสาเหตุที่มีจำนวน 414,670 ราย โดยเน้นการรณรงค์ตรวจสุขภาพ และเผยแพร่ความรู้ในการการดูแลสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ทั้งเรื่องการออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร การหลีกเลี่ยงบริโภคสิ่งที่ทำลายสุขภาพ  โดยมุ่งหวังภาพรวมให้การสาธารณสุขไทยก้าวหน้า และประชาชนชาวไทยมีสุขภาพดี ความสำเร็จทั้งหมดจะเกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือของประชาชนทุกภาคส่วนตั้งเป้าในอีก 10 ปี คนไทยจะมีอายุยืนถึง 80 ปี เท่าประเทศที่  พัฒนาแล้ว เช่นญี่ปุ่น โดยล่าสุดนี้ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล รายงานคนไทยอายุเฉลี่ย     73 ปี โดยผู้ชายเฉลี่ย 69.6 ปี ผู้หญิงเฉลี่ย 76.9 ปี  

 *********   27 พฤศจิกายน 2555

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 



   
   


View 13    27/11/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ