กระทรวงสาธารณสุข จับมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  เครือข่ายองค์กรงดเหล้า และชมรมสร้างเสริมสุขภาพ  จัดโครงการรณรงค์ลอยกระทงปลอดเหล้า ปีนี้ 14  จังหวัด   สร้างค่านิยมใหม่และเข้มการใช้กฎหมาย ห้ามขาย- ห้ามดื่มเหล้าในพื้นที่จัดงานลอยกระทง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ต้องห้าม   พบฝ่าฝืนจับ-ปรับไม่ละเว้น   พร้อมให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 76 จังหวัดและขอความร่วมมือกทม. ส่งสายตรวจปรามตั้งแต่ 23 -30 พฤศจิกายน 2555  เผยผลสำรวจล่าสุดพบว่าคนไทยรู้กฎหมายเหล้า แต่ยังมีการฝ่าฝืน คนร้อยละ 80 เห็นกระทำผิด

 

(วันนี้ 22 พฤศจิกายน  2555)  ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ชาญวิทย์  ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เภสัชกรสงกรานต์  ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) นายไพศาล  สุรธรรมวิทย์ เลขาธิการนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ นายชลิต  ธนโชควณิช รองนายกเทศมนตรีเมืองตาก และนายณัฐพล  อุ่นศักดิ์ ประธานชมรมสร้างเสริมสุขภาพและรองนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกันแถลงข่าวโครงการรณรงค์ประเพณีลอยกระทงปลอดเหล้า ปี 2555 “ลอยกระทงปลอดเหล้า บุญจะส่งให้เราสุขใจ” 

                      นายแพทย์ชาญวิทย์กล่าวว่า เทศกาลลอยกระทงซึ่งจะมาถึงในอีก 6 วัน ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2555    กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) ชมรมสร้างเสริมสุขภาพและรองนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดรณรงค์ลอยกระทงปลอดเหล้า โดยห้ามจำหน่ายและห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในพื้นที่ที่จัดงานลอยกระทง   ซึ่งปีนี้ดำเนินการในพื้นที่ 14 จังหวัดได้แก่ 1.เทศบาลนครเชียงใหม่  2.เทศบาลเมืองตาก  3.เทศบาลเมืองแพร่  4.เทศบาลเมืองหลังสวน จ.ชุมพร  5.เทศบาลนครอุดรธานี  6.เทศบาลเมืองปทุมธานี  7.เทศบาลเมืองชัยนาท  8.เทศบาลตำบลภูเรือ จ.เลย 9.เทศบาลเมืองตรัง 10.เทศบาลเมืองสตูล 11.เทศบาลนครสกลนคร  12.เทศบาลเมืองลำพูน  13.เทศบาลเมืองตราด   และ14.วัดอรุณราชวราราม (กทม.)  เพื่อปรับเปลี่ยนค่านิยมดื่มเหล้าฉลองเทศกาล  และส่งเสริมเทศกาลลอยกระทงของไทยเป็นวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามและทรงคุณค่า ไม่ให้ถูกทำลายให้เสียความเป็นเอกลักษณ์จากปัญหาที่มาจากการดื่มเหล้าเช่น อุบัติเหตุจราจร อาชญากรรม หรือมอมเมาเยาวชนหญิงและล่อลวงไปจนทำให้เสียตัวได้

             นายแพทย์ชาญวิทย์กล่าวต่อว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริม สนับสนุนให้ประชาชนลด ละเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และดำเนินการกวดขันเข้มงวดการปฏิบัติตามกฎหมายคือพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เนื่องจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า เหล้าและบุหรี่เป็น 2 ใน 4 ตัวการหลัก ที่ทำให้คนไทยมีอายุเฉลี่ยสั้นลง และเป็นสาเหตุของโรคต่างๆกว่า 60 โรค  ผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุดในปี 2554 มีคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากถึง 17 ล้านคน   โดยเทศกาลวันลอยกระทงปีนี้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ลงนามหนังสือสั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศและขอความร่วมมือกทม.ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกตรวจสอบ ห้ามขายและห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ประกาศห้าม  ทั้งนี้พื้นที่จัดงานลอยกระทงส่วนใหญ่มักจัดในสถานที่สาธารณะ ริมแม่น้ำ ท่าน้ำ  ลำคลอง หรือบึง  ซึ่งอยู่ในความดูแลของหน่วยราชการส่วนท้องถิ่น เป็นเขตห้ามขาย-ห้ามดื่มเหล้าอยู่แล้ว   จะเริ่มตรวจตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน -30 พฤศจิกายน 2555  หากพบกระทำผิดจะลงโทษตามกฎหมายโดยไม่ละเว้น โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  สำหรับการจัดงานประเพณีลอยกระทงใน 14 จังหวัดรณรงค์นั้น   กระทรวงสาธารณสุขจะให้เป็นต้นแบบของการเป็นพื้นที่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจร้านค้า เฝ้าระวัง บังคับใช้กฎหมาย จับจริง ปรับจริง เพราะเรื่องการรณรงค์ความปลอดภัย เป็นเรื่องที่สังคมต้องช่วยกันไม่ใช่ภาระของคนใดคนหนึ่ง นายแพทย์ชาญวิทย์กล่าว

                     ทั้งนี้ เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และมูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา  ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด จำนวน 1,893 คน  เรื่อง “ประเพณีลอยกระทงกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 -30 ตุลาคม 2555   พบว่าเทศกาลลอยกระทงเป็นวันที่คนนิยมดื่มเหล้ารองจากเทศกาลสงกรานต์และเทศกาลขึ้นปีใหม่  โดยประชาชนร้อยละ 92 รับรู้ รับทราบกฎหมายห้ามขาย ห้ามดื่มเหล้าในสถานที่ราชการ สถานศึกษา วัด หรือสวนสาธารณะ แต่ปรากฏว่ากลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยละ 80 ระบุว่ายังพบเห็นการขาย การดื่มในพื้นที่จัดลอยกระทงในปีที่ผ่านมา  สะท้อนชัดเจนว่าประชาชนส่วนใหญ่  รู้กฎหมาย  แต่ยังฝ่าฝืนกระทำผิด  โดยสิ่งที่ประชาชนไม่อยากให้เกิดขึ้นในวันลอยกระทงมี 4 เรื่อง  อันดับ 1 ได้แก่ การจุดประทัด พลุไฟร้อยละ 29  รองลงมาได้แก่การทะเลาะวิวาทร้อยละ 26   การดื่มสุราร้อยละ 23 และการล่วงละเมิดทางเพศ ร้อยละ 19 

                ทางด้านนายแพทย์สมาน  ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า กรมควบคุมโรค ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ ย้ำเตือนกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้ประกอบการทั้งกทม.ปริมณฑล และต่างจังหวัดทราบและปฏิบัติตามกฎหมาย มาเป็นเวลา 3-4 ปี  ซึ่งได้รับความร่วมมือดีขึ้นเรื่อยๆ  ส่วนที่มีการฝ่าฝืนกว่าร้อยละ 90 จะพบในช่วงเทศกาลสำคัญ ในปี 2555 ได้ตรวจจับ ดำเนินคดีทั่วประเทศรวม 4,293 ราย ประกอบด้วยในเขตกทม. 2,067 ราย ที่เหลืออีก 2,226 รายอยู่ในต่างจังหวัด และได้จัดส่งทีมเฉพาะกิจลงในพื้นที่ ในรายที่มีปัญหาซับซ้อน ยากต่อการดำเนินงานของพื้นที่ และลงโทษรวมอีก 700 ราย  โดยในปีงบประมาณ 2556 นี้จะตรวจเข้มข้นทุกพื้นที่ที่ห้ามขายอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงด้วย

***************************************  22  พฤศจิกายน 2555

 



   
   


View 12    22/11/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ