“สมศักดิ์” ยกระดับหมอนวดไทยเชี่ยวชาญพิเศษ 7 กลุ่มอาการ เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย หนุนเศรษฐกิจสุขภาพ
- สำนักสารนิเทศ
- 453 View
- อ่านต่อ
กระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด 15 จังหวัดที่พบผู้ป่วยและผู้สงสัยป่วยโรคคอตีบในพื้นที่ กำชับให้คงมาตรการควบคุมป้องกันโรคอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง และเร่งฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงให้ครบ 100 เปอร์เซนต์ ย้ำเตือนประชาชนให้ล้างมือ คาดหน้ากากอนามัยเมื่อเป็นหวัด และหากป่วยเป็นไข้ เจ็บคอ 2 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้นให้พบแพทย์ เผยสถานการณ์ขณะนี้ดีขึ้น พบผู้ป่วยในเดือนตุลาคมเพียง 4 ราย รักษาหายทุกราย
วันนี้ (3 พฤศจิกายน 2555) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์โสภณ เมฆธน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานประธานวอร์รูมการควบคุมป้องกันโรคโรคตีบกระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด 15 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ที่พบผู้ป่วย ผู้สงสัยป่วยโรคคอตีบ และพื้นที่เสี่ยงที่อยู่ติดกับพื้นที่ที่พบผู้ป่วย ได้แก่ เลย หนองบัวลำภู เพชรบูรณ์ อุดรธานี สุราษฎร์ธานี สกลนคร พิษณุโลก ชัยภูมิ ขอนแก่น เชียงราย หนองคาย พิจิตร อุตรดิตถ์ บึงกาฬ และน่าน เพื่อติดตามสถานการณ์ และการควบคุมป้องกันโรคคอตีบในแต่ละพื้นที่
นายแพทย์โสภณให้สัมภาษณ์ว่า จากการติดตามสถานการณ์ใน 15 จังหวัด พบว่าสถานการณ์ดีขึ้น ตลอดเดือนตุลาคมที่ผ่านมาพบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพียง 4 ราย ใน 3 จังหวัด 4 อำเภอ ประกอบด้วยจ.เลย 2 รายพบ2 อำเภอ เพชรบูรณ์ 1 อำเภอ และสุราษฎร์ธานี 1 อำเภอ จังหวัดละ 1 ราย รักษาหายทุกราย โดยกระทรวงสาธารณสุขได้จัดการปัญหาโดยจัดอบรมฟื้นฟูความรู้ในการวินิจฉัยโรคและการรักษาโรคคอตีบให้แพทย์ทุกจังหวัด ซึ่งโรคนี้มียาปฏิชีวนะรักษาหายได้ และตั้งคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่วนกลางให้คำปรึกษาแก่แพทย์ผู้รักษาในโรงพยาบาลทุกจังหวัดตลอด 24 ชั่วโมง
นายแพทย์โสภณกล่าวต่อว่า ได้เน้นย้ำให้ทั้ง 15 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ที่พบผู้ป่วย ผู้สงสัยป่วยโรคคอตีบ และพื้นที่เสี่ยงให้ประชุมวอร์รูมจังหวัดเพื่อคงมาตรการควบคุมป้องกันโรคอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ให้ค้นหาผู้สัมผัสโรคในพื้นที่เสี่ยงเช่นโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็กต่างๆ การตรวจวินิจฉัยรักษาผู้ป่วยที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ และมีแผ่นฝ้าขาวในลำคอ ให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบปูพรมแก่ประชาชนทุกคนในพื้นที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันป่วยโรคคอตีบ และให้ อสม.เคาะประตูบ้านติดตามอาการของผู้ป่วย ค้นหาผู้ป่วยหรือผู้ที่มีอาการสงสัยอาจจะป่วยในพื้นที่ เพื่อเข้าสู่ระบบการรักษา ส่วนพื้นที่ที่อยู่ติดพื้นที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันและพื้นที่ที่พบผู้ป่วยมีอาการสงสัยอาจป่วยเป็นคอตีบ ขอให้ฉีดวัคซีนให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีทุกคน และฉีดวัคซีนเก็บตกในเด็กเล็กตามระบบการให้วัคซีนปกติให้ครบ 100 เปอร์เซนต์ ส่วนพื้นที่อื่นๆที่เหลือ ขอให้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กลุ่มเด็กให้ครบตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข คืออายุต่ำกว่า 4 ปี ฉีดจำนวน 5 ครั้ง ฉีดซ้ำเมื่ออายุ 12-16 ปี 1 ครั้ง และฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี และฉีดให้หญิงตั้งครรภ์ให้ครบ 3 ครั้ง
อย่างไรก็ดี แม้ว่าโรคคอตีบจะไม่พบในประเทศไทยมาหลายปีแล้วก็ตาม แต่โรคนี้มียารักษาหาย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้จัดส่งยา และส่งท็อกซอยด์ต้านพิษเชื้อโรคคอตีบไปให้โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปทุกแห่งแล้ว โดยโรคนี้ป้องกันได้ 2 วิธี คือการป้องกันด้วยวัคซีน โดยได้สำรองวัคซีนป้องกันโรคคอตีบในปี 2556 จำนวน 10 ล้านโด๊สแล้ว และป้องกันโดยให้ประชาชนล้างมือบ่อยๆ ใช้ช้อนกลางตักอาหารเมื่อกินอาหารร่วมกับผู้อื่น หากเป็นไข้หวัด ขอให้คาดหน้ากากอนามัย และพักผ่อนอยู่บ้านจนกว่าจะหาย เพื่อป้องกันเชื้อแพร่สู่คนอื่น หากเป็นไข้หวัด เจ็บคอ 2 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้น ให้พบแพทย์
************ 3 พฤศจิกายน 2555