รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งการ 30 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วมจากพายุแกมี่ ช่วง 5-8 ตุลาคมนี้ โดยเฉพาะโรงพยาบาล 4 แห่ง ใน 6 จังหวัดเสี่ยงสูงคือ สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา นครราชสีมา จันทบุรี และตราด ซักซ้อมความพร้อมตามแผนป้องกันสถานพยาบาลไม่ให้น้ำท่วม และการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง   

          วันนี้ (4 ตุลาคม 2555) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไป 30 จังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากพายุแกมี่ (GAEMI) เช่น นครราชสีมา ชัยภูมิ ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี ติดตามความพร้อมของพื้นที่ในการรับมือผลกระทบจากพายุแกมี่ในช่วงวันที่ 5-8 ตุลาคม 2555 นี้ นายวิทยากล่าวว่า ในการรับมือครั้งนี้ ได้แบ่งกลุ่ม 30จังหวัดออกเป็น 2 กลุ่ม คือ1.กลุ่มเสี่ยงสูง มี 6 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา นครราชสีมา จันทบุรี และตราด มีโรงพยาบาลที่มีความเสี่ยงสูงจะถูกน้ำท่วมสูง 4 แห่ง ได้แก่ 1.รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี 2.รพ.มหาราชนครราชสีมา 3.รพ.ปักธงชัย และ4.รพ.สต.ลาดยาว จ.นครราชสีมา ที่อาจได้รับผลกระทบจากเขื่อนลำพระเพลิง ซึ่งขณะนี้ ทุกแห่งได้เตรียมการป้องกันสถานพยาบาลไว้แล้ว 2.กลุ่มเฝ้าระวัง มีทั้งหมด 24 จังหวัด ได้เน้นย้ำให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้ วอร์รูมน้ำท่วมที่กระทรวงสาธารณสุข ได้ติดตามประเมินสถานการณ์ เพื่อสั่งการเบื้องต้นและเป็นจุดประสานงานให้การสนับสนุนจังหวัดต่างๆ โดยได้ส่งยาชุดน้ำท่วมและยาตำราหลวงแก่จังหวัดที่ถูกน้ำท่วมไปแล้ว 218,500ชุด และเตรียมสำรองยา เวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ในการป้องกันโรค อาทิยาชุดน้ำท่วม ยาสามัญประจำบ้าน ยารักษาโรคน้ำกัดเท้า เซรุ่มแก้พิษงู คลอรีน ทรายกำจัดลูกน้ำ รองเท้าบู๊ท ถุงดำ ไว้อย่างเพียงพอ พร้อมให้การสนับสนุนตามที่จังหวัดร้องขอ

          ด้านนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของกระทรวงสาธารณสุขที่เน้นย้ำให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัดมี 6ข้อ ได้แก่ 1.จัดตั้งวอร์รูมจังหวัดเป็นศูนย์สั่งการ ประสานงาน ติดตามกำกับการดำเนินงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย และแก้ไขปัญหาต่างๆในพื้นที่ 2.ให้ติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพทั้งกายและจิต 3.เตรียมยา เวชภัณฑ์ พาหนะ และเครือข่ายสื่อสาร ทีมแพทย์กู้ชีพ ทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว ชุดปฏิบัติการแพทย์สนามฉุกเฉินในภาวะภัยพิบัติ หรือทีมเมิร์ท (Medical Emergency Response Team: MERT) พร้อมปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง จัดบริการกลุ่มที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่นผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยจิตเวช หญิงตั้งครรภ์ 4.ให้ความรู้ประชาชนในการดูแลสุขภาพ และการควบคุมป้องกันโรค 5.ให้ป้องกันน้ำท่วมสถานบริการ สำรวจจุดเสี่ยงต่างๆ และสำรองยาเวชภัณฑ์ ให้มีใช้เพียงพอ ปรับแผนบริการประชาชนทุกรูปแบบและแผนการส่งต่อผู้ป่วย โดยให้เจ้าหน้าที่เตรียมป้องกันบ้านเรือนตนเอง อพยพครอบครัวไปอยู่ในที่ปลอดภัย เพื่อลดความห่วงพะวงในการทำงานช่วยเหลือประชาชน และ6.เตรียมการฟื้นฟูหลังน้ำลด สร้างความปลอดภัย ความมั่นใจแก่ประชาชน 

         ทั้งนี้ ผลจากน้ำท่วมที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ มีสถานพยาบาลในสังกัดปิดบริการ 1 แห่ง คือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี น้ำเข้าตัวอาคารสูง 60เซนติเมตร ได้ย้ายจุดไปให้บริการในจุดที่ประชาชนมารับบริการสะดวก หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการทุกวัน สรุปมีผู้ป่วยทั้งหมด 41,649ราย ส่วนใหญ่ปวดศีรษะ น้ำกัดเท้า และไข้หวัด ด้านสุขภาพจิตพบผู้มีความเครียดสูง 139 ราย ซึมเศร้า 64 ราย ทั้งหมดนี้อยู่ในความดูแลของจิตแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รวมทั้งอสม.ในพื้นที่ 

********   4 ตุลาคม 2555


   


View 11    04/10/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ