กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมวิชาการประจำปี 2555 เทิดพระเกียรติ 120 ปีชาตกาล พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย และเพื่อกระตุ้นบุคลากร 10 สาขาวิชาชีพ พัฒนาผลงาน องค์ความรู้ นำไปใช้ในการจัดบริการแก้ไขปัญหาสุขภาพประชาชน โดยผลงานที่คว้ารางวัลยอดเยี่ยมประจำปี 2554 ได้แก่ แบบคัดกรองผู้ที่เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย ของโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์

 วันนี้ (12 กันยายน 2555) ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 พรรษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายแพทย์สุรวิทย์  คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ไพจิตร์  วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุขประจำปี 2555 ซึ่งเป็นครั้งที่ 20 เพื่อเทิดพระเกียรติ 120 ปีชาตกาล แห่งสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ผู้เป็นองค์พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย ภายใต้หัวข้อ“ก้าวตามรอยพระบาทที่มุ่งมั่น เพื่อสร้างสรรค์การแพทย์และสาธารณสุขไทย” และเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ และโครงการที่สำคัญของกระทรวงฯ ในเวทีสาธารณะ เพื่อให้เกิดการพัฒนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขแต่ละสาขา กระตุ้นให้เกิดการคิดค้นศึกษาวิจัยสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ รวมถึงพัฒนาองค์กร ผลงาน หรือนวัตกรรมทางการแพทย์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยและก้าวหน้า เพื่อนำไปใช้ในการจัดบริการแก้ไขปัญหาสุขภาพประชาชน โดยมีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกระดับทุกสาขาอาชีพ ทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุขจากทั่วประเทศเข้าร่วมประชุมจำนวน 4,000 คน

ในการประชุมครั้งนี้  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบรางวัลให้แก่ผู้ที่มีผลงานวิจัยยอดเยี่ยมประจำปี 2554  แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ประเภทผลงานยอดเยี่ยมจำนวน 1 รางวัล  ได้รับโล่เกียรติยศพร้อมเงินรางวัล 25,000 บาท ได้แก่ ผลงานเรื่อง “การพัฒนาแบบคัดกรองผู้ที่เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย” โดยนายแพทย์ประภาส  อุครานันท์ โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์และคณะ ซึ่งปัญหาการฆ่าตัวตายเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย แต่ละวันมีคนฆ่าตัวตายเฉลี่ย 12 คน เมื่อมีคนฆ่าตัวตาย 1 คนก็จะส่งผลกระทบต่อบุคคลรอบข้างอย่างน้อย 5 คน  โดยในปี 2546 รพ.จิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ได้พัฒนาแบบคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงฆ่าตัวตายเป็นครั้งแรก และพัฒนาให้มีความสมบูรณ์ ครอบคลุมถึงสัญญาณเตือน (warning sign) การฆ่าตัวตาย ช่วยคัดกรองกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่ระยะเริ่มแรก เจ้าหน้าที่สาธารณสุข  หรือผู้ใกล้ชิดกับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง  สามารถนำไปใช้คัดกรองหาผู้ที่มีความเสี่ยงได้ง่ายยิ่งขึ้น นำไปสู่การรักษาหรือช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ป้องกันการเสียชีวิต และความทุกข์ใจของคนรอบข้างได้  ทั้งนี้จากการศึกษาแบบคัดกรองพบว่า ปัจจัยของผู้ที่เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายจะมี 3 องค์ประกอบใหญ่ๆคือ การวางแผนฆ่าตัวตายแบบซ้ำๆ  ความเครียด  และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  ขณะนี้ได้นำแบบคัดกรองดังกล่าวมาใช้ทั่วประเทศ และได้ผลดี    

ประเภทผลงานดีเด่น จำนวน 3 รางวัล ได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมเงินรางวัล 15,000 บาท ได้แก่ ปัจจัยเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการจมน้ำในขณะน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบ 100 ปี จ.นครราชสีมา พ.ศ.2533 โดยนายแพทย์วิชัย  ขัตติยวิทยากุล นายแพทย์สาธารณสุข จ.นครราชสีมา  2.โครงการพัฒนาระบบส่งต่อระดับปฐมภูมิ-ทุติยภูมิ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี (ระบบ Green Channel) โดยนางสาวนริศรา ดีสดใส โรงพยาบาลบ้านบึง 3.เครื่องมือยึดจับกระดูกจากภายนอกชนิดยืดหยุ่น ดูแลผู้ป่วยกระดูกหัก ทำให้กระดูกสมานเร็วขึ้น โดยนายแพทย์อนุชิต  จางไววิทย์ โรงพยาบาลปัตตานี                                                                     

และประเภทรางวัลชมเชยจำนวน 3 รางวัล ได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท ได้แก่ 1.ผลการใช้กลุ่มเพื่อนช่วยเหลือต่อความรู้ พฤติกรรมสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือด ต.ช่องสะแก ต.ไร่ส้ม และต.ธงชัย อ.เมือง จ.เพชรบุรี โดยนางปนัดดา  มณีทิพย์ โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเพชรบุรี  2.ผลการปฏิบัติทางการพยาบาลดูแลพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวของเด็กกลุ่มอาการดาวน์อายุ 1 ปี 6 เดือน- 5 ปี โดยนางจันทร์เพ็ญ  ธัชสินพงษ์ สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต  3.ประสบการณ์ของชาวมุสลิมที่ป่วยด้วยวัณโรค และเกิดภาวะตับอักเสบจากการใช้ยาวัณโรค โดยนางนิรัชรา  สาแล๊ะ โรงพยาบาลรามัน จ.ยะลา

นายแพทย์ไพจิตร์  วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า  ในปี 2555 นี้มีผู้ส่งผลงานวิชาการเข้าร่วมประกวดทั้งหมด 888 เรื่อง แบ่งเป็น 10 สาขา ได้แก่ การแพทย์ การพยาบาล ทันตสาธารณสุข การพัฒนาระบบยาและการคุ้มครองผู้บริโภค โรคไม่ติดต่อและโรคจากการประกอบอาชีพ การป้องกันและควบคุมโรค โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สาธารณสุขทั่วไป การแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก และวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญทุกสาขาอาชีพของกระทรวงสาธารณสุขและมหาวิทยาลัยต่างๆ จะคัดเลือกผลงานวิชาการที่ดีที่สุดเพื่อรับรางวัลดีเด่นประจำปีต่อไป

 ************************  12 กันยายน 2555



   
   


View 8    12/09/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ