วันนี้ (8 มีนาคม 2555) ที่วัดพระธาตุดอยสะเก็ด อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข  เป็นประธานเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการถวายความรู้  พระสังฆาธิการ เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล เจ้าอาวาส กว่า 200 รูป และผู้นำชุมชน 50 คน ในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมบทบาทผู้นำศาสนาในการแก้ไขปัญหาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ติดเชื้อเอชไอวี เอดส์ และผู้ติดสุรา โดยวิทยากรจากกรมสุขภาพจิต กรมอนามัย กรมควบคุมโรค 

          นายแพทย์สุรวิทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีผลการศึกษาเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่า เรื่องของสภาพจิตใจมีผลต่อภูมิต้านทานโรคในร่างกายคนเราเป็นอย่างมาก อารมณ์ที่เป็นบวก คิดบวก หรือมีอารมณ์ดี และคิดดี จะทำให้ภูมิต้านทานโรคเพิ่มขึ้น อาการป่วยบางโรค โดยเฉพาะโรคเรื้อรังเช่น โรคเอดส์ ซึ่งขณะนี้คาดประมาณว่ามีคนไทยติดเชื้อเอชไอวี 1 ล้านกว่าราย และมีผู้ป่วยสะสมที่ยังมีชีวิต 376,690 ราย ส่วนใหญ่เป็นวัยแรงาน ซึ่งอยู่ในภาคกลางมากที่สุด 152,545 ราย รองลงมาคือภาคเหนือ 113,022 ราย ผู้ป่วยดังกล่าวไม่สามารถใช้ยารักษาเพียงอย่างเดียวได้ ต้องอาศัยการเยียวยาใจควบคู่ด้วย ซึ่งจะช่วยให้ภูมิต้านทานโรคดีขึ้น 

นายแพทย์สุรวิทย์ กล่าวต่อว่า ผู้ป่วยต้องมีผู้ที่เห็นใจ ให้การยอมรับ ช่วยเหลือ ให้โอกาส  โดยผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีในระยะแรกๆ จะไม่แสดงอาการ และเขาเหล่านั้นต้องการโอกาสในการทำงาน ใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนบุคคลทั่วไป  หากได้รับการเห็นใจ ให้โอกาส ไม่มีการตีตรา มีผู้ให้คำปรึกษาให้กำลังใจ ควบคู่กับการกินต้านไวรัสรักษา ก็จะสามารถอยู่ทำประโยชน์ให้กับสังคมได้ไม่น้อย และไม่เป็นอุปสรรคในการอยู่ร่วมกับสังคม เพราะการที่จะติดเชื้อเอชไอวีได้ ต้องผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์

นายแพทย์สุรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า ในการร่วมแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยโรคเอดส์ และผู้ติดเหล้า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายส่งเสริมให้ผู้นำศาสนาและผู้นำชุมชน เข้ามาเป็นแกนนำในการดูแลช่วยเหลือ โดยใช้หลักศาสนธรรมในการให้คำปรึกษา ให้ความรู้ ให้กำลังใจ และการเยี่ยมบ้านเสริมกำลังใจ เพื่อให้ผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วย สามารถดำเนินชีวิตและดูแลตนเองได้ในสังคมอย่างปกติสุข โดยในปีนี้ ได้ให้กรมสุขภาพจิตจัดทำหลักสูตรถวายความรู้การส่งเสริมสุขภาพจิตแก่พระสงฆ์ทั่วประเทศ ให้พระเป็นที่พึ่งทางจิตใจของประชาชนทั้งที่ปกติและผู้ที่ปัญหา ซึ่งมีชาวพุทธจำนวนมาก เมื่อมีปัญหา หรือมีความทุกข์ มักจะปรึกษาพระ   

          อย่างไรก็ตาม ผู้ติดเชื้อเอดส์ที่มีปัญหา ต้องการคำปรึกษา  ขณะนี้กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดสายด่วนที่พึ่งทางใจ บริการให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยา และพยาบาล ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการปรึกษาปัญหา บริการฟรีทางหมายเลข 1323 สามารถโทรศัพท์ขอรับบริการได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถขอรับคำปรึกษาจากโรงพยาบาลของรัฐที่มีคลินิกให้คำปรึกษา และกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนโดยอาสาสมัครที่เป็นผู้ติดเชื้อด้วยกัน จะมีการให้คำปรึกษา ให้กำลังใจกันและกัน สอนทำสมาธิ เพื่อให้อยู่ร่วมกับสังคมอย่างปกติ

 นายแพทย์สุรวิทย์กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับเรื่องการดื่มสุรา ผลสำรวจล่าสุดในปี 2554 พบคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปดื่มสุราประมาณ 17 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงติดสุรา 3 ล้านคน และเป็นกลุ่มดื่มอันตราย คือดื่มแล้วก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพตนเองและเกิดปัญหาต่อผู้อื่นประมาณ 2 ล้านคน บุคคลเหล่านี้ต้องมีผู้ที่เข้าไปดูแล พูดคุย ให้กำลังใจในการลด ละ เลิกดื่มในที่สุด ในรายที่ติดสุรามากๆ การเลิกสุราระยะแรกอาจมีอาการหลอน และมือสั่น แต่จะเป็นระยะสั้นๆ ต้องมีการประเมินและใช้ยารักษาแทนการขาดสุรา ถ้ารักษาไปได้ระยะหนึ่งแล้วยังเกิดอาการหูแว่ว ต้องกินยาโรคจิตเพิ่มเติม โดยบุคคลเหล่านี้ต้องเฝ้าระวังดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ

 

******************************************* 8 มีนาคม 2555



   
   


View 11       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ