"วิทยา" ยืนยันการปรับลดงบประมาณรายหัว ไม่กระทบกับการจัดบริการผู้ป่วยในโครงการ 30 บาท

 รัฐมนตรีว่าการะทรวงสาธารณสุข  ยืนยันการปรับลดวงเงินงบประมาณรายหัวในปีงบประมาณ 2555 ลง ร้อยละ 5 หรือประมาณ 6,700 ล้านบาท ไม่กระทบการจัดบริการผู้ป่วยในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับงบประมาณในปีงบประมาณ 2555 ซึ่งงบประมาณแต่ละกระทรวงจะถูกปรับลดซึ่งสร้างความกังวลกับหลายฝ่ายในเรื่องหลักประกันสุขภาพของประชาชน ว่าในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข งบค่าใช้จ่ายรายหัวที่ตั้งไว้ 2,800 บาทเศษที่ได้จัดเตรียมไว้สำนักงบประมาณได้ปรับลงร้อยละ 5   ซึ่งเป็นความจำเป็นของรัฐบาลที่จะบริหารจัดการเงินที่มีอยู่ ต้องนำบางส่วนไปดูแลปัญหาผลกระทบที่เกิดจากอุทกภัย

ในส่วนของงบประมาณโครงการหลักประกันสุขภาพแม้จะถูกปรับลดร้อยละ 5 เป็นวงเงินกว่า 7 พันล้านบาท แต่ถือว่างบประมาณที่ได้มากกว่าปี 2554 อยู่ถึง 6,700 กว่าล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2554 ได้รับการจัดสรรในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า วงเงิน 101,057.911 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2555 หลังปรับลดวงเงินแล้วได้รับจัดสรรรวมทั้งหมด 107,814.1154 ล้านบาท

"ผมขอยืนยันในฐานะที่ต้องเข้ามาแก้ปัญหาความเสี่ยงการบริหารจัดการให้ครอบคลุมคือ ปัญหาโรงพยาบาลขาดทุนหรือบริหารจัดการให้ประชาชน 48 ล้านคนได้รับบริการสุขภาพ ยืนยันว่าเงินที่จัดสรรไม่กระทบต่อให้บริการประชาชน เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขจะมีการเปลี่ยนแปลงและปรับโครงสร้างบางตัว นอกจากการจัดเก็บค่าธรรมเนียม 30 บาทในบางส่วน ซึ่งจะได้จัดเก็บในเวลาที่เหมาะสม ไม่ใช่ช่วงเวลานี้"นายวิทยากล่าว

 นายวิทยา กล่าวต่ออีกว่า ต้องขอขอบคุณสมาชิกสภาทุกท่าน ที่ให้ความสนใจและเป็นห่วงกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะได้เร่งดำเนินการลดความแออัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ พร้อมทั้งเร่งปรับค่านิยมของประชาชนในการเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ โรงพยาบาลจังหวัดและโรงพยาบาลอำเภอ ทำให้โรงพยาบาลเกิดความแออัดและมีความเสี่ยงต่อการบริหารจัดการ ต่อไปนี้ก็จะใช้การกระจายผู้ป่วยให้ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) แทน เช่น โรคที่ประชาชนป่วยกันมาก เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ซึ่งหากมีการบริหารจัดการข้อมูลภายในแล้ว ความเสี่ยงในการให้บริการประชาชนจะไม่เกิดขึ้น ส่งผลให้การบริการประชาชนในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามีคุณภาพมาตรฐานที่ดีขึ้น โดยเฉพาะหลังจากนี้หากมีการจัดเก็บค่าธรรมเนียม 30 บาท จะช่วยให้การบริการประชาชนทั่วถึงครอบคลุมทุกโรค

             ..........................              10 พฤศจิกายน 2554