รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ทำงานร่วมกับกทม.ดูแลผู้ประสบภัยในกทม.ต่อเนื่อง วันนี้ ส่ง 12 ทีมลงพื้นที่น้ำท่วมหนัก 8 เขต ได้แก่ เขตบางกอกใหญ่ ลาดพร้าว บางพลัด ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา ลาดกระบัง ภาษีเจริญ และบางแค  ผลการออกหน่วยแพทย์พื้นที่กทม.วานนี้มีผู้มารับบริการกว่า 1,300 ราย

วันนี้ (6 พฤศจิกายน 2554) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังติดตามนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัย และตรวจเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของกระทรวงสาธารณสุขที่ออกตรวจรักษาผู้ประสบภัยที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ และโรงเรียนบางคูรัด อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ว่า ขณะนี้ สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดเริ่มคลี่คลาย เข้าสู่ระยะฟื้นฟู ที่น่าห่วงคือพื้นที่กทม. และปริมณฑล เช่นนนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม รวมทั้งจังหวัดที่น้ำท่วมใหม่คือสมุทรสาคร บางจุดมีระดับน้ำท่วมสูงและขยายวงออกไปมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่กทม. ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ยังอาศัยอยู่ในบ้านเป็นจำนวนมาก กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ระดมบุคลากรจากต่างจังหวัดออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการร่วมกับกทม. ทั้งที่อยู่ในศูนย์พักพิงและที่อาศัยอยู่ในบ้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ประสบภัยที่เจ็บป่วย รวมทั้งกลุ่มเสี่ยงต่างๆ เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง เด็ก หญิงตั้งครรภ์ เข้าถึงบริการตรวจรักษาโรค และได้รับการดูแลสุขภาพอย่างทั่วถึง

นายวิทยากล่าวต่อว่า  จากการออกให้บริการพื้นที่กทม. วานนี้ ใน 8 เขต ได้แก่ สายไหม ดอนเมือง ลาดพร้าว  บางพลัด จตุจักร บางกอกใหญ่ ตลิ่งชัน และคลองสามวา มีผู้รับบริการ 1,314 ราย  ในวันนี้ ได้จัดหน่วยแพทย์ออกบริการในพื้นที่กทม. จำนวน 12  ทีม ใน 8 เขต ได้แก่ เขตบางกอกใหญ่ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เขตลาดพร้าว 2 จุดที่เซนทรัลลาดพร้าว ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ และออกตระเวณเยี่ยมบ้านบริเวณหลังมหาวิทยาลัยเกษตร เขตบางพลัดตั้งจุดบริการที่สี่แยกบางพลัดและออกเยี่ยมบ้าน เขตตลิ่งชันที่จุดพักพิงรร.วัดชัยพฤกษ์มาลา เขตทวีวัฒนาที่จุดพักพิงรร.คลองบางพรหม เขตลาดกระบังที่วัดสุทธาโภชน์และวัดทิพพาวาส เขตภาษีเจริญที่จุดพักพิงวัดอ่างแก้ว และจุดพักพิงวัดโคนอน และเขตบางแคที่จุดพักพิงรร.วัดคลองใหญ่  โดยจะให้บริการจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

 ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นอกจากการให้บริการตรวจรักษาโรคแล้ว กระทรวงสาธารณสุข ได้เน้นย้ำให้หน่วยแพทย์ดูแลเรื่องสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม และการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคในศูนย์พักพิงและในชุมชน ข้อมูลการเฝ้าระวังโรคในศูนย์พักพิง 127 แห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นนทบุรี และปทุมธานี ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 4 พฤศจิกายน 2554 พบไข้หวัดใหญ่ 4,684 ราย อุจจาระร่วงเฉียบพลัน 828 ราย และตาแดง 246 ราย ไม่พบเหตุการณ์ระบาดของโรคที่รุนแรง แต่หากเกิดโรคขึ้น กระทรวงสาธารณสุข จะส่งทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็วลงควบคุมสอบสวนโรค เพื่อจำกัดวงไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง นอกจากนี้ ยังได้เฝ้าระวังพิเศษในศูนย์พักพิงที่มีแรงงานต่างด้าวอพยพที่จังหวัดนครปฐม เฝ้าระวังยุงพาหะ โดยผลการตรวจไม่พบเชื้อโรคเท้าช้างและมาลาเรีย ขณะเดียวกันได้ให้ยาฆ่าพยาธิตัวกลมในกระแสเลือดที่ทำให้เกิดโรคเท้าช้างแก่แรงงานต่างด้าว จำนวน 400 คน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเท้าช้าง

ขอให้ผู้ประสบภัยรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ไม่มีแมลงวันตอม หากเป็นอาหารที่ได้รับบริจาคไม่ควรเก็บไว้นานเกิน 3-4 ชั่วโมง ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้ง ก่อนรับประทานอาหารและหลังออกจากห้องส้วม เพื่อป้องกันโรคระบาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่เกิดจากอาหารและน้ำ เช่นอุจจาระร่วง บิด ไทฟอยด์ นายแพทย์ไพจิตร์กล่าว       

 ************************  6 พฤศจิกายน 2554



   
   


View 13    06/11/2554   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ